แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรายงานไปว่า “นางสาวสมคิดไปเที่ยวกับผู้ชายในที่เปล่าเปลี่ยวสองต่อสอง” อันเป็นความเท็จและทำให้นางสาวสมคิดเสียหาย แต่ความจริงจำเลยรายงานว่า”ฯลฯ(นางสาวสมคิด) ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ และการไปมาซึ่งนับว่าเปล่าเปลี่ยวก็ไปกันกับหญิงกับชายซึ่งไม่มีญาติผู้ใหญ่ไปเป็นเพื่อน ฯลฯ” ซึ่งไม่ตรงกับคำฟ้อง ทั้งข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยรายงานไปโดยสุจริต จึงไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จหรือเบิกความเท็จ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นครูใหญ่ทำหนังสือร้องเรียนเท็จกล่าวโทษนางสาวสมคิดซึ่งเป็นครูน้อยไปยังศึกษาธิการกิ่งอำเภอบำเหน็จณรงค์ว่า “นางสาวสมคิดไปเที่ยวกับผู้ชายในที่เปลี่ยวสองต่อสองขอให้ทางการพิจารณา” เป็นเหตุให้ทางการมีคำสั่งไล่นางสาวสมคิดออกจากหน้าที่ครู ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118, 158 ศาลชั้นต้นลงโทษตามฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามรายงานของจำเลยหามีข้อความดังที่โจทก์กล่าวในฟ้องไม่ ความจริงจำเลยรายงานว่า “ฯลฯ (นางสาวสมคิด) ไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ การไปมานับว่าเปล่าเปลี่ยว ก็ไปกันกับหญิงกับชาย ซึ่งไม่มีญาติผู้ใหญ่ไปเป็นเพื่อน ฯลฯ” ข้อความตามรายงานของจำเลยนี้ไม่ตรงกับคำฟ้อง ทั้งข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยรายงานไปโดยสุจริตตามที่ได้ทราบจากกำนันและราษฎร จึงไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จหรือเบิกความเท็จ
พิพากษายืน