คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 928/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องทุกข์ของผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไม่ใช่เอกสารสิทธิตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 1(9)ฉะนั้นแม้จะได้ความว่าจำเลยเจตนาทุจริตหลอกลวงให้ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ก็ดี ก็ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2504 จำเลยบังอาจปักหลักกั้นรั้วบุกรุกที่ดินของนายอัมพรเพื่อถือการครอบครองที่ดิน ต่อมาวันที่ 30 เดือนเดียวกันนายอัมพรได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่จำเลย ครั้นต่อมา วันที่ 7 กันยายน 2504 จำเลยหลอกลวงนายอัมพรด้วยการแสวงข้อความเท็จว่า จำเลยจะยกที่ดินของจำเลยแลกเปลี่ยนกับที่จำเลยบุกรุกกั้นรั้ว นายอัมพรหลงเชื่อจึงได้ไปถอนคำร้องทุกข์เสีย ทั้งนี้โดยจำเลยเจตนาทุจริตหลอกลวงให้นายอัมพรถนอคำร้องทุกข์ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิ ทำให้นายอัมพรหมดสิทธิที่จะดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานบุกรุก ความจริงจำเลยมิได้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่อ้างจะนำมาแลกเปลี่ยน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341

ศาลชั้นต้นพิจารณาคำฟ้องแล้วเห็นว่า การถอนคำร้องทุกข์อันเป็นเหตุให้ผู้เสียหายไม่อาจดำเนินคดีอาญาต่อไปได้ เพราะเหตุที่จำเลยหลอกลวงนั้น ไม่ใช่เป็นการหลอกลวงให้ผู้เสียหายถอนหรือทำลายเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 เอกสารสิทธิมีบทวิเคราะห์ศัพท์ไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(9) มิได้หมายถึงสิทธิในการดำเนินคดีอาญา คำฟ้องโจทก์ไม่มีมูลเป็นความผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาว่า คำร้องทุกข์ของผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 123 เป็นเอกสารสิทธิหรือไม่ คำว่า “เอกสารสิทธิ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(9)หมายความว่า”เอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการ ก่อ เปลี่ยนแปลง โอนสงวนหรือระงับซึ่งสิทธิ” ดังนี้ ย่อมเห็นความมุ่งหมายของเอกสารสิทธิได้ว่าจะต้องเป็นเอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการก่อตั้งสิทธิและเอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการเปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือเลิกล้างสิทธิทุกอย่างส่วนคำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 123 นั้น ผู้เสียหายจะทำเป็นหนังสือหรือร้องด้วยปากก็ได้มีข้อสำคัญว่าต้องปรากฏชื่อและที่อยู่ของผู้ร้องทุกข์ลักษณะแห่งความผิด ความเสียหายที่ได้รับและชื่อหรือรูปพรรณของผู้กระทำผิดเท่าที่จะบอกได้ ลงวันเดือนปีและลายมือชื่อของผู้ร้องทุกข์ ถ้าร้องด้วยปากก็ให้พนักงานสอบสวนบันทึกไว้ และผู้บันทึกต้องลงลายมือชื่อในบันทึกด้วย คำร้องทุกข์จึงเป็นแต่เพียงคำบอกกล่าวแก่พนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเท่านั้น หาเป็นหลักฐานแห่งการก่อตั้งซึ่งสิทธิดังกล่าวแล้วไม่จึงมิใช่เอกสารสิทธิตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(9) เมื่อคำร้องทุกข์ไม่ใช่เอกสารสิทธิตามกฎหมายแล้ว แม้ตามข้อเท็จจริงจะได้ความว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหลอกลวงให้ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์เสียก็ดี ก็ย่อมลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ไม่ได้ ข้อที่โจทก์กล่าวอ้างมาในฎีกาว่าเมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์ก็มีเจตนามุ่งหมายที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในทางแพ่งด้วยนั้นพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจดำเนินคดีในทางแพ่งให้แก่ผู้เสียหายคำร้องทุกข์จึงเป็นเพียงพยานหลักฐานอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่หลักฐานแห่งการก่อตั้งซึ่งสิทธิเช่นกัน

พิพากษายืน

Share