แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เช่าเคหะโดยมีหนังสือสัญญาเช่าและมีข้อความห้ามเช่าช่วงเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าให้เช่าช่วงได้ แม้การยินยอมจะไม่ได้มีปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรผู้เช่าช่วงก็ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2497)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เดิมพระคลังข้างที่ให้นายกระแสร์ ศิริกาญจน์ เช่าตึกพิพาทนายกระแสร์ผิดสัญญาเอาตึกไปให้จำเลยเช่าช่วงจำเลยดัดแปลงต่อเติมทำให้ตึกเสียหายและยังเอาไปให้ผู้อื่นเช่าช่วงต่อ จึงได้เลิกสัญญากับนายกระแสร์ นายกระแสร์ได้ส่งมอบตึกแล้ว จำเลยไม่ยอมออก ขอให้ขับไล่และใช้ค่าเสียหาย
จำเลยต่อสู้ว่าพระคลังข้างที่ให้นายกระแสร์เช่าไปโดยอนุญาตให้เช่าช่วงได้ จำเลยได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
ศาลแพ่งวินิจฉัยว่า เมื่อนายกระแสร์ไม่มีสิทธิให้เช่าช่วงได้จำเลยผู้อาศัยสิทธินายกระแสร์ก็ไม่มีสิทธิจะอ้างยังเจ้าของเดิมได้ถือได้ว่าจำเลยเป็นบริวารของนายกระแสร์ พิพากษาให้ขับไล่ ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่านายศุจิน ผู้อำนวยการพระคลังข้างที่ ผู้ดูแลจัดการแทนเจ้าของห้องรายพิพาทรับว่าห้องรายพิพาทที่ให้นายกระแสร์เช่าไปนั้นเพื่อให้เช่าช่วงได้ แสดงให้เห็นเจตนาว่าได้สละข้อห้ามเรื่องเช่าช่วงตามที่ปรากฏในแบบพิมพ์สัญญาแล้ว ฉะนั้นเมื่อจำเลยต่อสู้ว่าได้รับคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ และห้องพิพาทฟังได้ว่าเป็นเคหะ ถึงแม้จะไม่มีสัญญาเช่าต่อกันจำเลยก็ย่อมได้รับคุ้มครอง พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์