คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลออกคำบังคับให้จำเลยเปิดเหมืองตรงที่ปิดไว้ให้เป็นไปตามสภาพเดิม การที่จำเลยเปิดเหมืองตามคำบังคับของศาลแล้วต่อมาเพียงเดือนเดียวกับปิดเสียใหม่ ในที่ห่างกันเพียงแขนเดียว ทำให้น้ำกลับท่วมเต็มดังเช่นเดิมอีก การกระทำของจำเลยเช่นนี้ย่อมส่งให้เห็นเจตนาว่าทำไปเพื่อเลี่ยงในการที่จะไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลนั้นเอง (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2503)

ย่อยาว

คดีนี้ กรณีเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องว่าจำเลยปิดเหมืองเป็นเหตุให้น้ำท่วมนาโจทก์เสียหาย จึงให้จำเลยรื้อ จำเลยแพ้คดี ศาลชั้นต้นออกคำบังคับให้จำเลยเปิดเหมืองตรงที่ปิดไว้นั้นให้เป็นไปตามสภาพเดิม จำเลยจึงรื้อสิ่งที่ปิดกั้นลำเหมืองพิพาทเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๐๐ ต่อมาวันที่ ๗ พฤศจิกายน ปีเดียวกัน จำเลยปิดกั้นลำเหมืองนั้นอีก โจทก์จึงยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้น ขอให้จับตัวจำเลยมาขังฐานฝ่ายฝืนหมายบังคับคดีของศาล
ศาลชั้นต้นเรียกตัวจำเลยมาสอบถาม จำเลยแถลงว่าไม่ได้ปิดกันที่เดิม ได้ปิดเหนือจากที่เดิมประมาณ ๑ แขน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยปฏิบัติตามบังคับแล้ว การปิดกั้นใหม่ถ้าจะเป็นการละเมิด ก็เป็นการกระทำละเมิดใหม่ ศาลจึงไม่มีอำนาจบังคับจำเลย จึงให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้จัดการกับจำเลยตามกฎหมายเพื่อให้จำเลยปฏิบัติให้เป็นไปตามคำพิพากษาต่อไป
่จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำบังคับของศาล จำเลยต้องเปิดเหมืองตรงที่ปิดไว้นั้นให้เป็นไปตามสภาพเดิม อันเป็นการระงับความเสียหายของโจทก์อันเกิดจากการละเมิดของจำเลย การที่จำเลยเปิดเหมืองตามคำบังคับของศาลแล้วต่อมาเพียงเดือนเดียวกับปิดเสียใหม่ ในที่ห่างกันเพียงแขนเดียว ทำให้น้ำกลับท่วมเต็มดังเช่นเดิมอีก การกระทำของจำเลยเช่นนี้ย่อมส่งให้เห็นเจตนาว่าทำไปเพื่อเลี่ยงในการที่จะไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลนั้นเอง ศาลอุทธรณ์พิพากษามาชอบแล้ว
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share