แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่สัญญาประกันไฟวิธีพิจารณาแพ่งย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าประกันไฟจากบริษัท จำเลย
จำเลยต่อสู้และตกลงกะประเด็นข้อสืบคือ
( ๑ )โจทก์ไม่ส่งหลักฐานสิ่งของที่ โจทก์ซื้อมา
( ๒ ) เครื่องแต่งบ้านได้เอาประกันไฟไว้กับผู้อื่นโดยไม่บอกให้จำเลยทราบ และโจทก์ได้รับเงินที่ประกันนั้นมาเสร็จแล้ว
( ๓ ) ราคาของที่โจทก์ฟ้องเกินกว่าความจริง
( ๔ )โจทก์ไม่ได้ปฏิบัติตาม สัญญาประกันไฟ
ศาลแพ่งตัดสินว่า ข้อต่อสู้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น จึงให้จำเลยใช้เงิน ๒๐๐๐๐ บาทตาม สัญญา
ศาลอุทธรณ์เห็นชอบด้วยศาลแพ่งทุกประการเว้นแต่ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ว่าโจทก์ให้คนอื่นเช่าห้อง ๙๐๓ ชั้นล่างขายน้ำมันยางนั้น โจทก์ไม่บอกให้จำเลยทราบและในสัญญาประกันกล่าวชัดว่า โจทก์ประกันห้องนี้ทั้ง ๒ ชั้น โจทก์จะนำพะยานมาสืบว่าได้ประกันไว้แต่เพียงชั้นเดียวไม่ได้ โจทก์ปิดบังความจริงทำให้ จำเลยหลง สัญญาเปนโมฆะ จึงตัดสินยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ตัดสินนอกประเด็น
ศาลฎีกาเห็นว่าตามประมวล ม. ๘๖๕ สัญญาประกันที่มีการกล่าวเท็จปิดบังความจริงทำให้ผู้รับประกันหลงเปนโมฆียะ แต่ ม. ๘๖๖ ว่าถ้าผู้รับประกันรู้หรือควรรู้ความจริงแล้ว สัญญานั้นเปน สัญญาดีแต่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้ วินิจฉัยในข้อเท็จจริงอันนี้ และ โจทก์นำสืบได้ ไม่เรียกว่าหักล้าง สัญญาจึงตัดสินยกคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ย้อนสำนวนให้ ศาลอุทธรณ์ตัดสินใหม่ให้ชอบตามกฎหมาย