แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่า จำเลยไม่มาแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกที่อำเภอนั้นถ้าฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่า นายอำเภอได้จัดการประกาศและปิดประกาศไว้ตามข้อกำหนดของกฎหมายแล้ว ถือว่าฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์ แม้จำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นทหารกองเกินมีอายุย่างเข้ายี่สิบเอ็ดปีใน พ.ศ.๒๔๙๙ บังอาจละเลยไม่ได้แสดงตนเพื่อขอรับหมายเรียกที่อำเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของจำเลยภายในกำหนดตามหน้าที่ ที่กฎหมายบังคับไว้ ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร ๒๔๙๗ มาตรา ๒๕,๔๔ วรรค ๑
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร ๒๔๙๗ มาตรา ๔๔ วรรค ๒ จำคุก ๖ เดือน ลดกึ่งคงจำคุก ๓ เดือน
โจทก์อุทธรณ์ว่า วางโทษจำเลยเกินกฎหมายและเกินคำขอ จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษเพียงปรับ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์มิได้บรรยายข้อความตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร ๒๔๙๗ มาตรา + จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืน โดยมติที่ประชุมใหญ่ว่าความในมาตรา ๒๖ เป็นข้อกำหนดของกฎหมายเพื่อ+การเป็นไปตามมาตรา ๒๕ กรณีจะเป็นความผิดตาม ม.๔๔ โดยการกระทำที่จะเป็นการหลีกเลี่ยงขัดขืนตาม ม.๒๕ จะต้องปรากฎว่าอำเภอได้จัดการตาม มาตรา ๒๖ ครบถ้วนแล้ว ตามฟ้องโจทก์มิได้กล่าวว่าพนักงานเจ้าหน้าที่คือนายอำเภอได้ปฏิบัติตาม มาตรา ๒๖ มาในฟ้อง เพียงแต่กล่าวว่าจำเลยบังอาจละเลยไม่ไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกที่อำเภอภายในกำหนด ฟ้องของโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ที่จะกล่าวหาว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามกฎหมาย แม้จำเลยจะรับสารภาพ ก็เอาผิดแก่จำเลยมิได้