คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปลงศพผู้ตายที่ตายเพราะจำเลยทำละเมิดนั้นพอที่จำเลยเข้าใจได้แล้ว หาจำต้องบรรยายว่าเป็นค่าอะไรเท่าใดด้วยไม่ เพราะเป็นเพียงรายละเอียดเท่านั้น และโจทก์มีสิทธิเรียกค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะในการศึกษาล่วงหน้าได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างขับรถยนต์โดยสารของจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นนิติบุคคล เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๑ จำเลยที่ ๑ ขับรถยนต์ไปในทางการที่จำเลยที่ ๒ จ้าง ด้วยความประมาทแซงรถยนต์ประจำทางคันอื่นในระยะคับขันด้วย ความเร็วสูง พอดีรถยนต์ประจำทางของเทศบาลเมืองนนทบุรีสวนทางมา จำเลยที่ ๑ จึงหักหลบซ้ายโดยกระทันหัน เป็นเหตุให้นายกวางจิ้น ซึ่งโดยสารมาในรถของจำเลยเซเสียหลัก ศีรษะและข้อศอกเอียงออกไปนอกตัวถัง โดนกับรถยนต์ประจำทางของเทศบาลเมืองนนทบุรีถึงแก่ความตายทำให้โจทก์ที่ ๑ ซึ่งเป็นบิดา โจทก์ที่ ๒ เป็นภริยา โจทก์ที่ ๓ เป็นบุตร ได้รับความเสียหาย จึงขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์เป็นเงิน ๕๓,๖๐๐ บาท
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การและชั้นพิจารณา
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า จำเลยที่ ๑ ไม่ประมาท ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องเคลือบคลุมและสูงเกินควร
ศาลแพ่งเห็นว่า จำเลยที่ ๑ ขับรถยนต์ประมาท จำเลยที่ ๒ เป็นายจ้างต้องรับผิดจึงพิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าใช้จ่ายในการทำศพผู้ตาย ๕๐๐ บาท ค่าปลงศพ ๓,๐๐๐ บาท ค่าอุปการะเลี้ยงดูโจทก์ที่ ๑ ที่ ๒ นับแต่วันนายจิ้นกวางตายถึงวันฟ้องคนละ ๑,๓๕๐ บาท สำหรับค่าอุปการะเลี้ยงดูเป็นรายเดือนจนกว่าโจทก์ทั้งสองจะสิ้นชีวิตนั้น เห็นสมควรให้โจทก์ที่ ๑ ที่ ๒ ได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดูตลอดกาลอีกเพียง ๑๐,๐๐๐ บาท และให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูและเพื่อการศึกษาแก่โจทก์ที่ ๓ เป็นเงิน ๑๒,๐๐๐ บาท เต็มตามขอ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้จำเลยใช้ค่าอุปการะเลี้ยงดูให้โจทก์ที่ ๑ เดือนละ ๔๐๐ บาท โจทก์ที่ ๒ เดือนละ ๕๐๐ บาท และขอค่าเลี้ยงดูตลอดกาลสำหรับโจทก์ที่ ๑ ๕๐,๐๐๐ บาท โจทก์ที่ ๒ ๖๐,๐๐๐ บาท
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์คัดค้านข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ ๑ มิได้ประมาท ค่าใช้จ่ายในการทำศพ ๓,๐๐๐ บาท ไม่ปรากฎรายการว่าอะไรบ้าง เป็นการเคลือบคลุม โจทก์ที่ ๑ ที่ ๒ ต่างมีอาชีพและรายได้ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดจ่ายค่าอุปการะ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามข้อเท็จจริง จำเลยที่ ๑ ไม่ประมาท แม้จำเลยที่ ๑ จะมิได้อุทธรณ์ด้วยก็ได้รับผลเพราะเป็นหนี้ร่วม พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฏีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๑ ประมาทจริงดังฟ้อง จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นนายจ้างต้องรับผิดร่วมด้วย สำหรับค่าเสียหายนั้นเห็นว่า ค่าทำศพผู้ตายศาลแพ่งให้ ๕๐๐ บาทเต็มตามโจทก์ขอจำเลยไม่อุทธรณ์เป็นอันยุติ ส่วนค่าปลงศพผู้ตาย ๓,๐๐๐ บาทที่จำเลยอุทธรณ์คัดค้านว่าโจทก์ไม่ระบุให้ละเอียดว่าจะใช้จ่ายเป็นค่าอะไรบ้างเป็นฟ้องเคลือบคลุมนั้น เห็นว่า โจทก์ระบุว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการปลงศพ ก็พอที่จำเลยจะเข้าใจได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องระบุลงไปว่าเป็นค่าอะไรเท่าใด เพราะเป็นรายละเอียด ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ที่จำเลยคัดค้นต่อไปว่ายังไม่แน่ว่าโจทก์จะปลงศพผู้ตายหรือไม่นั้น ก็เห็นว่า โจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าปลงศพตามประเพณีล่วงหน้าได้ ที่ศาลแพ่งกำหนดค่าปลงศพให้โจทก์ ๓,๐๐๐ บาท พอสมควรแก่ภาวะค่าครองชีพในปัจจุบันแล้ว สำหรับค่าสินไหมทดแทนในการขาดความอุปการะเลี้ยงดูนั้น เห็นควรให้โจทก์ที่ ๑ ที่ ๒ รับจากวันนายจิ้นกวางตายถึงวันฟ้องรวม ๔,๕๐๐ บาทและให้ได้รับค่าสินไหมทดแทนหลังจากวันฟ้อง คือ โจทก์ที่ ๑ ได้ ๑๒,๐๐๐ บาท ให้โจทก์ที่ ๒ ได้ ๒๐,๐๐๐ บาท และโจทก์ที่ ๓ ซึ่งศาลแพ่งให้เต็มตามขอ ๑๒,๐๐๐ บาท ซึ่งจำเลยอุทธรณ์คัดค้านว่าขณะนี้โจทก์ที่ ๓ อายุ ๒ – ๓ ขวบ ยังไม่ได้รับการศึกษาจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องนั้น เห็นว่า แม้โจทก์ที่+ยังมิได้เข้ารับการศึกษาก็ดี ก็มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อการศึกษาในอนาคตจากผู้ทำละเมิดให้โจทก์ขาดความอุปการะเลี้ยงดูได้ ที่ศาลแพ่งกำหนดค่าสินไหมทดแทนให้ ๑๒,๐๐๐ บาทนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นสมควรแก้ไข
พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์รวมเป็นเงิน ๕๒,๐๐๐ บาท.

Share