แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับคำให้การของจำเลยเป็นคำสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา18จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ทันทีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา228(3) ในระหว่างที่จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำให้การศาลชั้นต้นได้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไปและศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้ศาลชั้นต้นงดการพิจารณาคดีไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา228วรรคสองจนศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาคดีไปโดยจำเลยมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นแต่อย่างใดคำพิพากษาของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเสร็จเด็ดขาดถึงที่สุดแล้วการที่จะให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนและมีคำสั่งรับหรือไม่รับคำให้การใหม่ไม่ว่าผลการไต่สวนจะเป็นประการใดย่อมไม่อาจจะทำให้ผลของคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดแล้วเปลี่ยนแปลงไปได้อุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดี
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าจ้างตัดเย็บเสื้อผ้าจำนวน 211,901 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี ในเงินต้น 205,480 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยยื่นคำให้การเมื่อพ้นกำหนดเวลาที่จะยื่นคำให้การแล้ว จึงไม่รับคำให้การของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวอ้างว่าจำเลยยื่นคำให้การภายในกำหนดเวลาแล้ว ขอให้มีคำสั่งรับคำให้การของจำเลย
ระหว่างพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นได้ดำเนินคดีต่อไปและมีคำพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี และคดีดังกล่าวถึงที่สุดโดยคู่ความมิได้อุทธรณ์คำพิพากษา
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า กรณียังเป็นที่สงสัยว่าเจ้าพนักงานปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องวันใดแน่ หากได้ความตามคำร้องย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยยื่นคำให้การเกินกำหนด พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนและมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับคำให้การของจำเลยนั้น เป็นคำสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ทันทีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228(3) แต่เมื่อจำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว ศาลชั้นต้นงดดำเนินการพิจารณาต่อไป และศาลอุทธรณ์ก็มิได้สั่งให้ศาลชั้นต้นงดการพิจารณาไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228 วรรคสองจนศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาคดีไปแล้ว โดยจำเลยมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นแต่อย่างใด คำพิพากษาของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเสร็จเด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว ดังนั้น การที่ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนและมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ไม่ว่าผลการไต่สวนจะเป็นประการใดไม่ว่าศาลชั้นต้นจะสั่งรับคำให้การของจำเลยหรือสั่งไม่รับคำให้การของจำเลยย่อมไม่อาจจะทำให้ผลของคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดแล้วเปลี่ยนแปลงไปได้อุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีอย่างใด
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และยกฎีกาของโจทก์คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดแก่โจทก์