คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9100/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสามให้การว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671 คดีจึงมีประเด็นเพียงว่าคดีโจทก์ขาดอายุความตามมาตรา 671 หรือไม่เท่านั้นการที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีขาดอายุความตามมาตรา 601เป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากคำให้การของจำเลยทั้งสามจึงไม่ชอบ สัญญาเลี้ยงไก่ระบุให้โจทก์มอบลูกไก่ อาหารไก่ ยา และวัคซีนสำหรับไก่ ให้จำเลยที่ 1 เลี้ยงเป็นไก่ใหญ่ เมื่อลูกไก่เจริญเติบโตเป็นไก่ใหญ่แล้วจำเลยที่ 1 ต้องส่งมอบคืนแก่โจทก์โดยโจทก์จะคิดมูลค่าไก่ใหญ่ทั้งหมดแล้วหักด้วยมูลค่าลูกไก่ อาหารไก่ ยา และวัคซีนซึ่งจำเลยที่ 1 รับไปจากโจทก์ คงเหลือยอดสุทธิเท่าใดให้ถือเป็นประโยชน์ของจำเลยที่ 1 แต่หากมูลค่าไก่ อาหารไก่ ยาและวัคซีนสูงกว่ามูลค่าไก่ใหญ่จำเลยที่ 1 ต้องชำระเงินส่วนที่ขาดให้โจทก์เป็นสัญญาร่วมกันประกอบการโดยแบ่งผลประโยชน์กันอันมีจำนวนไม่แน่นอน มิใช่สัญญาจ้างทำของสิทธิเรียกร้องตามสัญญาดังกล่าวมิได้มีกฎหมายบัญญัติถึงอายุความไว้เฉพาะ จึงมีอายุความ 10 ปี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาเลี้ยงไก่กับโจทก์จำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้ยอมตนเป็นผู้ค้ำประกัน รับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1 หลังจากทำสัญญาโจทก์ได้ส่งมอบลูกไก่อาหารไก่ ยา และวัคซีนให้จำเลยที่ 1 นำไปเลี้ยงไก่ใหญ่หลายรุ่นแต่เมื่อนำราคาลูกไก่ อาหารไก่ ยา และวัคซีนหักออกจากราคาไก่ใหญ่แล้วปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้โจทก์ทั้งสิ้น 161,567 บาท ต่อมาจำเลยที่ 1 นำเงินมาชำระให้โจทก์บางส่วน คงค้างชำระ 143,630.65 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน 165,174.65 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามให้การต่อสู้คดีหลายประการและให้การว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะโจทก์นำคดีมาฟ้องเกินกำหนด 6 เดือนนับแต่วันสิ้นสุดสัญญา จำเลยทั้งสามจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ประเด็นฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายหากได้ยกขึ้นวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 แล้วจะทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง จึงให้งดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์อุทธรณ์ข้อแรกว่า จำเลยทั้งสามให้การว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 671 แต่ศาลชั้นต้นยกอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 601 มาเป็นเหตุยกฟ้องโดยจำเลยทั้งสามไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 นั้น เห็นว่าคดีนี้จำเลยทั้งสามให้การโดยชัดแจ้งว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความเนื่องจากโจทก์มิได้เรียกร้องค่าเสียหายเกี่ยวกับการฝากทรัพย์ภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2536 อันเป็นวันสิ้นสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671 ดังนั้นคดีจึงมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยเพียงว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความตามมาตรา 671 หรือไม่เท่านั้น ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์มิได้ฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้รับจ้างภายในกำหนด 1 ปีคดีจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 601จึงเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือจากคำให้การของจำเลยทั้งสามไม่ชอบด้วยกฎหมาย อุทธรณ์ข้อนี้ของโจทก์ฟังขึ้น
โจทก์อุทธรณ์ข้อต่อมาว่า สัญญาระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 1มิใช่สัญญาจ้างทำของดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย หากแต่เป็นสัญญาแบ่งผลตอบแทนอันไม่มีบทกฎหมายกำหนดอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 193/30 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความนั้น เห็นว่าตามสัญญาเลี้ยงไก่ท้ายฟ้องระบุให้โจทก์มอบลูกไก่ อาหารไก่ ยาและวัคซีนสำหรับไก่ให้จำเลยที่ 1 เลี้ยงเป็นไก่ใหญ่ เมื่อลูกไก่เจริญเติบโตเป็นไก่ใหญ่แล้วจำเลยที่ 1 ต้องส่งมอบคืนแก่โจทก์โดยโจทก์จะคิดมูลค่าไก่ใหญ่ทั้งหมดแล้วหักด้วยมูลค่าลูกไก่ อาหารไก่ ยา และวัคซีนซึ่งจำเลยที่ 1 รับไปจากโจทก์คงเหลือยอดสุทธิเท่าใดให้ถือเป็นประโยชน์ของจำเลยที่ 1แต่หากมูลค่าลูกไก่ อาหารไก่ ยา และวัคซีนสูงกว่ามูลค่าไก่ใหญ่จำเลยที่ 1 ต้องชำระเงินส่วนที่ขาดให้โจทก์สัญญาระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 1ดังกล่าวนี้มิใช่เป็นการตกลงรับจะทำการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จและจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำนั้นหากแต่เป็นสัญญาร่วมกันประกอบการโดยแบ่งผลประโยชน์กันอันมีจำนวนไม่แน่นอน จึงมิใช่สัญญาจ้างทำของดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยหากแต่เป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่งมีผลใช้บังคับได้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาดังกล่าวมิได้มีกฎหมายบัญญัติถึงอายุความไว้เฉพาะจึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 193/30 อุทธรณ์ข้อนี้ของโจทก์ฟังขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share