คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองและจำหน่ายเฮโรอีนนั้นให้แก่ผู้อื่นด้วย เป็นความผิดสองกระทง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองหนัก ๑.๑๖ กรัม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี และจำหน่ายเฮโรอีนดังกล่าวให้แก่ผู้อื่น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๔๖๕ ฯลฯ
จำเลยให้การรับว่ามีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง แต่ปฏิเสธในข้อหาฐานจำหน่ายเฮโรอีน
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๗ มีกำหนด ๑ ปี กระทงหนึ่ง ลงโทษจำคุกฐานจำหน่ายเฮโรอีนตามมาตรา ๖ มีกำหนด ๕ ปีอีกกระทงหนึ่ง โทษฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๖ เดือน โทษฐานจำหน่ายเฮโรอีนลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก ๓ ปี ๔ เดือน รวมเป็นจำคุก ๓ ปี ๑๐ เดือน ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พยานโจทก์ไม่พอฟังว่าโจทก์จำเลยจำหน่ายเฮโรอีน พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์ฐานจำหน่ายเฮโรอีน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้ขายเฮโรอีนที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองให้แก่ผู้อื่นด้วยจริง (ตามทางนำสืบปรากฏว่าขณะจับจำเลยได้ ไม่ได้เฮโรอีนอื่นจากจำเลยอีก) พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๔๖๕ มาตรา ๒๐ ทวิ, ๒๐ ตรี พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๖, ๗ ส่วนโทษและการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share