คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้ข้อหาในทางอาญาได้ยุติแล้วโดยต้องห้ามฎีกา ก็ไม่เป็นเหตุให้ข้อหาในทางส่วนแพ่งซึ่งอาจฎีกาต่อไปอีกได้นั้น ต้องห้ามฎีกาด้วยไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกหนองซองแมวซึ่งเป็นหนองนาและบ่อปลาของโจทก์ จำเลยได้ทำลายต้นข้าวและลักปลาในบ่อ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324, 325, 327 และ 293 ข้อ 11 กับเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 9,890 บาท และขับไล่จำเลยมิให้เกี่ยวข้อง

ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า หนองซองแมวเป็นหนองนาโจทก์แต่ไม่พอฟังว่า จำเลยมีเจตนาบุกรุก ข้อหาฐานลักปลาก็ฟังไม่ได้ส่วนข้อหาฐานทำลายต้นข้าว วินิจฉัยว่า จำเลยต้องรับผิด จึงพิพากษาให้ยกข้อหาทางอาญา แต่ให้ขับไล่และใช้ราคาต้นข้าวเสียหาย 90 บาท

ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า เป็นหนองสาธารณะ และฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ทำลายต้นข้าว จึงพิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องโจทก์เสีย

โจทก์ฎีกาว่า หนองซองแมวเป็นหนองนาของโจทก์

ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว คดีมีข้อที่จะวินิจฉัยเบื้องต้นว่าฎีกาของโจทก์ต้องห้ามหรือไม่ กล่าวคือ หนองซองแมวเป็นหนองของโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น หรือว่าเป็นหนองสาธารณะตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งศาลทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต่างกันมา และเป็นข้อเท็จจริงในคดีส่วนแพ่งเท่านั้น ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในข้อที่กล่าวแล้วได้ และฟังข้อเท็จจริงว่าหนองซองแมวเป็นหนองนาของโจทก์ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

Share