คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9087/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องของโจทก์ได้ระบุวันวันเวลาที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดแล้ว จึงเป็นคำฟ้องที่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) ส่วนกรณีข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง เป็นเพียงข้อที่ศาลอาจถือเป็นเหตุยกฟ้องในชั้นพิพากษาคดีตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 เท่านั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่าเหตุเกิดเวลากลางวันและข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบก็ได้ความว่าจำเลยกับพวกร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่เวลากลางวันต่อเนื่องไปจนถึงเวลากลางคืน ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาไม่แตกต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตาม มาตรา ๒๔๐, ๒๔๔, ๘๓, ๓๒, ๓๓ , และริบของกลาง
จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยที่ ๒ และที่ ๔ ถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ ๒ และที่ ๔ เสียจากสารบบความ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ และที่ ๓ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔๔, ๘๓ จำคุกคนละ ๑๐ ปี ริบของกลาง
จำเลยที่ ๑ และที่ ๓ อุทธรณ์
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค ๔ จำเลยที่ ๑ ถึงแก่ความตาย ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ มีคำสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ ๑ เสียจากสารบบความ
ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ พิพากษายืน
จำเลยที่ ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าฟ้องโจทก์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ (๕) หรือไม่ จำเลยที่ ๓ ฎีกาว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๓๙ เวลากลางวัน แต่ทางพิจารณากลับปรากฏตาาคำเบิกความของพยานโจทก์ว่าเหตุคดีนี้เกิดเมื่อพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าไปแล้ว แสดงว่าเป็นเวลากลางคืนคำฟ้องของโจทก์จึงเคลือบคลุม ทำให้จำเลยที่ ๓ ไม่สามารถเข้าใจข้อหาได้ดีและหลงต่อสู้ในเรื่องดังกล่าวมาตลอด เห็นว่า ฟ้องของโจทก์ได้ระบุวันเวลาที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดแล้วจึงเป็นคำฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ (๕) หาเคลือบคลุมไม่ ส่วนกรณีเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับ ข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องนั้น เป็นเพียงข้อที่ศาลอาจถือเป็นเหตุยกฟ้องได้ในชั้นพิพากษาคดี ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒ วรรคสอง เท่านั้น ทั้งในเรื่องวันเวลาที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดดังกล่าว ข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบก็ได้ความว่าจำเลยที่ ๓ กับพวกร่วมกันกระทำความผิดในวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๓๙ ตั้งแต่ เวลากลางวันต่อเนื่องไปจนถึงเวลากลางคืน ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาจึงไม่แตกต่างกับข้อเท็จจริง ที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ฎีกาของจำเลยที่ ๓ ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น…
พิพากษายืน

Share