แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลย ในการทำสัญญาจ้างโจทก์ได้จำนองที่ดินแปลงหนึ่งไว้เป็นประกันความเสียหาย ซึ่งย่อมแยกการจำนองกับหนี้ที่เอาทรัพย์สินจำนองเป็นประกันออกจากกันได้ เมื่อโจทก์ทำให้จำเลยเสียหายจำเลยจึงมีสิทธิเลือกฟ้องบังคับชำระหนี้ตามสัญญาจ้างแรงงานหรือสัญญาจำนองก็ได้เพราะ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 733 ไม่บังคับว่าจำเลยมีสิทธิฟ้องบังคับจำนองเพียงทางเดียว ดังนั้นเมื่อจำเลยไม่ประสงค์จะบังคับชำระหนี้ค่าเสียหายจากที่ดินที่จำนองและจำเลยมีหนี้ต้องชำระเงินสะสมและเงินบำเหน็จจำนวนหนึ่งให้โจทก์ ประกอบกับจำเลยได้ใช้สิทธิขอหักหนี้มาในคำให้การแล้ว จำเลยจึงมีสิทธินำเงินบำเหน็จของโจทก์มาหักกับค่าเสียหายของจำเลยได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 341 โดยไม่จำต้องบังคับเอาจากทรัพย์ที่จำนองเป็นประกันก่อน.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลย จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะหยุดกิจการ เนื่องจากขาดทุนโดยไม่ปลดจำนองที่ดินซึ่งโจทก์จำนองไว้เป็นประกันความเสียหาย ขอให้จำเลยจ่ายเงินบำเหน็จเงินสะสมพร้อมดอกเบี้ย ค่าเสียหายฐานผิดสัญญาจ้างและปลดจำนอง
จำเลยให้การว่า โจทก์ทำให้จำเลยเสียหาย จำเลยหักค่าเสียหายกับเงินบำเหน็จและเงินสะสมที่โจทก์มีสิทธิได้รับแล้วโจทก์ยังเป็นหนี้จำเลยอีก ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าข้าวที่ขาดบัญชีไปจำนวน 281 กระสอบ คิดเป็นเงินจำนวน 156,432.70บาท ส่วนโจทก์มีสิทธิได้รับเงินสะสมและเงินบำเหน็จจำนวน 152,868.57บาท เห็นว่า การที่โจทก์ได้จำนองที่ดินโฉนดตราจองเลขที่ 4660ไว้กับจำเลยเป็นประกันความเสียหายตามสัญญาจ้างแรงงานที่โจทก์จะต้องรับผิดต่อจำเลยนั้น ย่อมแยกการจำนองกับหนี้ที่เอาทรัพย์สินจำนองเป็นประกันออกจากกันได้ จำเลยจึงมีสิทธิที่จะเลือกฟ้องบังคับชำระหนี้ตามสัญญาจ้างแรงงาน หรือตามสัญญาจำนองก็ได้ เพราะว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 733 มิได้บังคับว่าจำเลยมีสิทธิฟ้องบังคับจำนองเพียงทางเดียว ดังนั้น เมื่อจำเลยไม่ประสงค์ที่จะบังคับชำระหนี้ค่าเสียหาย จำนวน 156,432.70 บาท จากที่ดินที่จำนอง และจำเลยมีหนี้ที่จะต้องชำระเงินสะสมและเงินบำเหน็จจำนวน 152,868.57 บาท ให้โจทก์ ประกอบกับจำเลยก็ได้ใช้สิทธิขอหักหนี้มาในคำให้การแล้ว ดังนั้น จำเลยจึงมีสิทธินำเงินบำเหน็จของโจทก์มาหักเป็นค่าเสียหายแก่จำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341 โดยหาจำต้องบังคับเอาจากทรัพย์ที่จำนองเป็นประกันก่อนดังที่โจทก์อุทธรณ์ไม่”
พิพากษายืน