คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุใช้ไม้ตะบองยาวประมาณ 1 แขนตีจำเลยถูกคิ้วซ้าย จนจำเลยเซไปติดฝา แล้วผู้ตายตามไปจะตีจำเลยอีก จำเลยจึงต่อยผู้ตาย ผู้ตายจะตีอีก จำเลยจึงเตะผู้ตาย ผู้ตายเซถลาตกเรือนไป และถึงแก่ความตาย เช่นนี้ จำเลยหามีเจตนาฆ่าผู้ตายไม่ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้กำลังกายชกต่อย เตะ กระทืบ ทำร้ายร่างกาย นายเลี่ยมถูกที่ใบหน้า หน้าอก ซี่โครง จนกระดูกหน้าอกหักยุบ ได้รับอันตรายสาหัส โดยเจตนาฆ่า นายเลี่ยมทนพิษบาดแผลไม่ได้ ได้ถึงแก่ความตายสมเจตนาของจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิด มาตรา ๒๘๘ จำคุก ๑๕ ปี ลดโทษ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑๐ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยป้องกันพอสมควรแก่เหตุ พิพากษากลับยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า นายเลี่ยมผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุใช้ไม้ตะบองยาวประมาณ ๑ แขนตีจำเลยก่อนถูกที่คิ้วซ้ายขณะอยู่บนเรือนของนายเลี่ยม จนจำเลยเซไปติดฝา แล้วนายเลี่ยมได้ตามไปจะตีจำเลยอีก จำเลยจึงได้ต่อยนายเลี่ยมไป นายเลี่ยมจะตีจำเลยอีก จำเลยจึงได้เตะนายเลี่ยม นายเลี่ยมได้เซถลาตกเรือนไปและถึงแก่ความตาย เช่นนี้ เป็นการป้องกันสิทธิของตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย เพราะถ้าจำเลยไม่ต่อยและเตะไว้ นายเลี่ยมต้องใช้ไม้ตะบองตีจำเลย ทำให้จำเลยได้รับบาดเจ็บได้ นับว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง และจำเลยไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงให้พ้นภยันตรายโดยวิธีอื่นได้ ที่นายเลี่ยมตกเรือนและถึงแก่ความตาย เป็นบาปเคราะห์ของนายเลี่ยมเอง จำเลยหามีเจตนาฆ่าผู้ตายให้ถึงแก่ความตายไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๘ พิพากษายืน

Share