คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9047/2551

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยที่ 3 ยอมให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 กับพวกพักที่บ้านของจำเลยที่ 3 เพื่อใช้เป็นสถานที่ปรึกษาหารือกันในการนำธนบัตรปลอมของกลางไปใช้นั้น ถือได้ว่าจำเลยที่ 3 ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ในการนำธนบัตรปลอมของกลางไปใช้ จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 และที่ 2
แม้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 3 ในฐานเป็นตัวการ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 3 กระทำความผิดในฐานเป็นผู้สนับสนุน ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยที่ 3 ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งหกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 244 ริบของกลาง
จำเลยทั้งหกให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 244 จำคุกคนละ 4 ปี คำให้การของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 คนละ 2 ปี 8 เดือน ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 4 ถึงที่ 6 ริบของกลาง
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 3 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยที่ 3 ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 หรือไม่ ได้ความจากบันทึกคำให้การของจำเลยที่ 2 ในชั้นสอบสวนว่า จำเลยที่ 2 พาพวกนั่งรถยนต์ตู้จะไปพักที่บ้านของจำเลยที่ 3 ในจังหวัดภูเก็ตซึ่งก่อนหน้านี้จำเลยที่ 2 เคยไปมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่เนื่องจากมากันหลายคน จำเลยที่ 3 จึงพาบางคนไปพักที่โรงแรมพี.เอส.อินน์ และให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 นายพันธ์ศักดิ์ และนายพินโยพักที่บ้านของจำเลยที่ 3 จนวันรุ่งขึ้นได้มีการปรึกษาหารือกันที่บ้านของจำเลยที่ 3 ว่าจะนำธนบัตรปลอมไปใช้ในจังหวัดภูเก็ต โดยจำเลยที่ 2 มอบธนบัตรปลอมให้นายพันธ์ศักดิ์และนายพินโยคนละ 10 ฉบับ เพื่อเอาไว้ใช้แล้วออกจากบ้านดังกล่าว โดยมีจำเลยที่ 3 ขับรถไปส่งที่โรงแรมพี.เอส.อินน์ จำเลยที่ 1 ก็ไปขับรถยนต์ตู้ออกจากโรงแรมดังกล่าวและพากันไปรับประทานอาหาร หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำงานตามที่นัดหมายกันไว้ ส่วนจำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้กลับมาที่บ้านของจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 2 บอกจำเลยที่ 3 ว่า จำเลยที่ 2 มีธนบัตรปลอมนำมาใช้ที่จังหวัดภูเก็ตพร้อมมอบธนบัตรปลอม 1 ฉบับ ให้จำเลยที่ 3 เก็บไว้ และได้ความจากพันตำรวจเอกอภิรักษ์กับสิบตำรวจเอกเสถียรผู้ร่วมจับกุมจำเลยพยานโจทก์ว่า พยานนำหมายค้นไปตรวจค้นบ้านของจำเลยที่ 3 พบธนบัตรปลอมฉบับละ 500 บาท 167 ฉบับ อยู่ในกระเป๋าเดินทางของจำเลยที่ 2 และธนบัตรปลอมฉบับละ 500 บาท 1 ฉบับ ในตัวจำเลยที่ 3 ซึ่งตรงกับที่จำเลยที่ 3 ได้ให้การไว้ในชั้นสอบสวนตามบันทึกคำให้การของผู้ต้องหาทั้งจำเลยที่ 3 เองก็เบิกความยอมรับว่า ได้ให้จำเลยที่ 2 นายพันธ์ศักดิ์ และนายพินโยพักที่บ้านของจำเลยที่ 3 และเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นพบธนบัตรปลอมในบ้านของจำเลยที่ 3 จริง เพียงแต่บ่ายเบี่ยงอ้างว่าพบธนบัตรปลอมอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าของนายพันธ์ศักดิ์ไม่ทราบจำนวน และที่ตัวภริยาของจำเลยที่ 3 อีก 1 ฉบับ ซึ่งข้ออ้างนี้ขัดกับที่จำเลยที่ 3 ได้เคยให้การไว้ในชั้นสอบสวนดังกล่าว จึงไม่มีน้ำหนักรับฟัง ประกอบกับในชั้นจับกุมจำเลยที่ 3 ก็ให้การรับสารภาพตามบันทึกการจับกุมเชื่อได้ว่า จำเลยที่ 3 รู้ว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 นายพันธ์ศักดิ์ และนายพินโยจะนำธนบัตรปลอมของกลางไปใช้ในจังหวัดภูเก็ตแต่ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏชัดว่าจำเลยที่ 3 ได้ร่วมด้วยในการปรึกษาหารือกันในการนำธนบัตรปลอมของกลางไปใช้กับจำเลยที่ 1 ที่ 2 นายพันธ์ศักดิ์ และนายพินโยทั้งไม่ปรากฏว่า จำเลยที่ 3 มีเจตนาร่วมในการนำธนบัตรปลอมของกลางไปใช้ จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 เป็นตัวการร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 แต่การที่จำเลยที่ 3 ยอมให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 กับพวกพักที่บ้านของจำเลยที่ 3 เพื่อใช้เป็นสถานที่ปรึกษาหารือกันในการนำธนบัตรปลอมของกลางไปใช้นั้น ถือได้ว่าจำเลยที่ 3 ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ในการนำธนบัตรปลอมของกลางไปใช้ จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 และที่ 2 แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 3 ในฐานเป็นตัวการ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 3 กระทำความผิดในฐานเป็นผู้สนับสนุน ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยที่ 3 ในความผิดฐานนี้ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 3 มานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 244 ประกอบด้วยมาตรา 86 ให้จำคุก 2 ปี คำให้การของจำเลยที่ 3 ในชั้นจับกุม ชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยที่ 3 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8

Share