แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่บ้านซึ่งซื้อมาโดยทำการโอนกันต่อกรมการอำเพอตามระเบียบผู้ซื้อย่อมได้กัมสิทธิตามกดหมายโอนที่บ้านโดยทำสัญญากันเองผู้รับโอนจะต้องครอบครองถึง 9-10 ปี จึงจะได้กัมสิทธิ.
ย่อยาว
คดีนี้โจทฟ้องเรียกที่ดินบ้านเรือนและรถยนต์แทรกเตอร์จากจำเลยโดยอ้างทรัพย์เหล่านี้เปนของสามีโจทซึ่งได้วายชนม์ไปแล้ว
จำเลยไห้การต่อสู้ว่าเมื่อ ๖ ปีมานี้สามีโจทได้ทำหนังสือยกที่ดินสิ่งปลูกสร้างตลอดจนรถยนต์แทรกเตอร์ไห้แก่จำเลยเปนการชำระหนี้ แต่หนังสือนั้นสูญหายเสียแล้ว จำเลยได้ทำการปลูกส้างและครอบครองถือกัมสิทธิเปนเจ้าของมาจนบัดนี้ ไม่มีผู้ไดเข้ามาเกี่ยวข้อง
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วพิพากสายกฟ้องโจท
โจทอุทธรน์ สาลอุธรน์พิพากสายืน.
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่าฉเพาะที่รายพิพาทเปนที่บ้านสามีโจทผู้วายชนม์ซื้อมาจากผู้มีชื่อทำการโอนกันต่อกรมการอำเพอตามระเบียบ ฉนั้นผู้วายชนม์จึงมีกัมสิทธิไนที่พิพาทหาใช้สิทธิครอบครองไม่ เมื่อที่ดินรายนี้ ผู้วายชนม์มีกัมสิทธิตามกดหมายแล้ว จำเลยอ้างว่าจำเลยได้รับโอนกัมสิทธิมา จำเลยก็ต้องนำสืบว่านิติกัมการโอนนี้ ได้ทำเปนหนังสือและได้จดทะเบียนการได้มากับเจ้าพนักงานตามมาตรา ๑๒๙๙ ประมวนกดหมายแพ่ง ฯ หนังสือโอนที่พิพาทระหว่างกันเองดังจำเลยอ้างไช้ไม่ได้แม้จำเลยจะอ้างมาตรา ๑๓๘๒ ประมวนกดหมายแพ่ง ฯ ว่าด้วยครอบครองโดยอำนาดปรปักส์เพราะเจ้าของเดิมได้สละกัมสิทธิมอบไห้จำเลยครอบครองหย่างเจ้าของโดยเปิดเผยและด้วยความสงบก็ดี จำเลยก็ครอบครองติดต่อกันยังไม่ถึง ๑๐ ปีดังบัญญัติไว้ในมาตรานี้ จำเลยจึงไม่มีทางได้กัมสิทธิตามกดหมาย ส่วนโรงเรือนและรถยนต์แทรกเตอร์นั้น ข้อเท็ดจิงฟังได้ว่า โรงเรือนนั้น โจทสืบสม และรถยนต์แทรกเตอร์เปนทรัพย์เคลื่อนที่ได้ โจทมิได้เรียกร้องหรือรับคืนมาครอบครองในเวลาอันควน น่าเชื่อว่าผู้วายชนม์เอาตีไช้หนี้ไห้จำเลยก่อนวายชนม์ จึงพิพากสาแก้ห้ามไม่ไห้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินรายพิพาทต่อไป