คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 900/2469

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญากู้ รับรองหนี้ที่ขาดอายุความแล้ว พยานเอกสาร ต้องมีผู้รับรองจึงจะรับไว้ฟัง

ย่อยาว

ได้ความว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๘ จำเลยได้ทำสัญญากรมธรรม์กู้เงินของโจทย์ไป ๒๐๐๐๐ บาท ได้มอบโฉนด สำหรับที่ ๓ แห่งไว้เป็นประกัน ต่อมาจำเลยได้ผ่อนใช้หนี้ให้ ๑๐๐๐๐ บาทครั้งหนึ่ง ส่วนครั้งหลัง ๆ ที่จำเลยผ่อนใช้นั้น โจทย์จำจำนวนเงินไม่ได้แน่ ครั้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๖ โจทย์จำเลยตกลงกันว่า ให้จำเลยยอมใช้เงิน ๓๐๐๐ บาทเท่านั้น โจทย์จึงตั้งให้นายเต่าโดยไม่มีใบมอบฉันทะไปทำหนังสือกู้กัที่อำเภอแทนโจทย์ แต่ด้วยเหตุที่ไม่มีมีใบมอบฉันทะ นายอำเภอจึงไม่ยอมลงชื่อด้วย แต่ได้เก็บสัญญานั้นติดต้นขั้วไว้ และแทงหมายเหตุว่า ” กระดาษตาย”
ปัญหามีว่าหนังสือสัญญาที่นายอำเภอไม่ได้ลงชื่อแลประทับตรานั้น เป็นหนังสือรับรองหนี้ที่ใช้ได้ตามกฎหมายหรือไม่
ศาลจังหวัดตรังเห็นว่า หนังสือสัญญานั้นไม่สมบูรณ์เพราะทำไม่ถูกแบบที่กฎหมายบังคับไว้ ตามประมวลแพ่งมาตรา ๑๑๕ จึงไม่มีผลเป็นการรับใช้หนี้ เมื่อเกินอายุความตามมาตรา ๑๗๒ จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทย์เสีย
โจทย์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามมาตรา ๑๗๒ นั้น ลูกหนี้รับสภาพหนี้โดยทำหนังสือกันเองก็ใช้ได้ ไม่จำเป็นต้องทำเป็นกรมธรรม์ แลตามมาตรา ๑๘๘ บัญญัติว่า สัญญารับสภาพหนี้สินที่ขาดอายุความแล้ว เป็นสัญญาที่ใช้ได้ตามกฎหมาย จึงพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน ๓๐๐๐ บาทตามสัญญานั้น กับดอกเบี้ย ๑๐๐ ละ ๗ ครึ่งต่อปี
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ แต่วินิจฉัยต่อไปว่า การที่นายอำเภอบันทึกไว้นั้น ไม่เป็นข้อสำคัญอะไรเลย เพราะเป็นน่าที่ของศาลจะต้องวินิจฉัยว่าหนังสือนั้นจะใช้ได้หรือไม่ต่างหาก อนึ่งมีจดหมายเป็นอักษรอังกฤษ ซึ่งจำเลยแถลงว่าเป็นจดหมายของโจทย์ แจ้งต่อศาลว่าไม่ติดใจฟ้องอุทธรณศาลฎีกาเห็นว่า หนังสือนี้ไม่มีใครรับรอง จะฟังเป็นศาลฎีกาเห็นว่า หนังสือนี้ไม่มีใครรับรอง จะฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้.

Share