คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตกลงซื้อขายผลลำไยในสวนขณะลำไยกำลังออกดอก โดยชำระราคากันบางส่วนแล้ว และให้ผู้ซื้อเป็นผู้ครอบครอง ดูแลรักษาต้นลำไยเอง ผลได้เสียเป็นของผู้ซื้อ ถ้าเกิดผลเสียหายอย่างใด ผู้ขายไม่ต้องคืนเงิน ถ้าได้ผลมากก็เป็นของผู้ซื้อฝ่ายเดียว เป็นการเสี่ยงโชคโดยคำนวณจากดอกลำไยและสุดแต่ดินฟ้าอากาศจะอำนวยให้ ดังนี้ถือว่า คู่สัญญาได้ตกลงซื้อขายกันแน่นอนแล้ว โดยคำนวณราคาจากดอกลำไยเป็นหลัก ต่อมาถ้าต้นลำไยถูกพายุพัดหักหมด ผู้ซื้อจะเรียกเงินคืนจากผู้ขายไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ทำสัญญาด้วยวาจา จะซื้อผลลำไยจากสวนของจำเลยในราคา ๗,๖๐๐ บาท ได้วางมัดจำไว้ครึ่งหนึ่ง ๓,๘๐๐ บาท ราคาที่เหลือดจะชำระเมื่อเก็บผลลำไยในฤดูลำไย และมีข้อตกลงว่า หากลำไยไม่ได้ผลจะต้องคืนเงินมัดจำ ต่อมาได้มีพายุพัดแรงจัด ทำให้ลำไยสวนนี้หักเสียหายหมด การชำระหนี้ของจำเลยตกเป็นพ้นวิสัย โจทก์ขอเงินมัดจำคืน จำเลยไม่ยอม จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่า การซื้อขายเป็นการตกลงซื้อดอกลำไยบนต้น และเป็นการซื้อขายเด็ดขาด ไม่มีข้อตกลงว่าจะต้องคืนเงินมัดจำ
ข้อเท็จจริงได้ความตามคำพยานโจทก์ว่า ฝ่ายโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อเป็นผู้คอยดูแลต้นลำไยเอง การซื้อขายเป็นการเสี่ยงโชค ถ้าลำไยติดผลมากก็ได้กำไรมาก ถ้าติดผลน้อยหรือไม่ได้ผลเลย ก็ขาดทุน และในกรณีที่ลำไยไม่ติดผลก้แล้วกันไป ไม่ต้องคืนเงินมัดจำ และได้ความตามที่จำเลยนำสืบว่า ตามขนบธรรมเนียมประเพณีการซื้อขายลำไย เมื่อลำไยออกดอกจะมีผู้ซื้อมาดูแลและตกลงซื้อขายกัน ตามปกติ ชำระเงินกันครึ่งหนึ่งก่อน อีกครึ่งหนึ่งชำระเมื่อเก็บผลลำไยแล้ว ถ้าต่อมาลำไยไม่มีผล จะเพราะเหตุใดก็ดี ผู้ขายไม่ต้องคืนเงินที่ได้รับไว้แล้ว และผู้ซื้อเป็นผู้ไปดูแลต้นลำไย รดน้ำค้ำไม้เอง
ศาลชั้ต้นวินิจฉัยว่า กรณีเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย พิพากษาให้จำเลยคืนเงินมัดจำ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่ ากรณีเป็นสัญญาจะซื้อจะขายจริง แต่เป็นเรื่องโจทก์สละเรียกมัดจำคืน เมื่อลำไยไม่มีผล ต้นลำไยถูกพายุพัดหักตาย ก็อยู่ในลักษณะเดียวกับลำไยไม่ติดผลตามธรรมชาติ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกมัดจำคืน พิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ซื้อเป็นผู้ครอบครอง ดูแลรักษาต้นลำไยเอง ผลได้เสียเป็นของผู้ซื้อ ถ้าเกิดผลเสียหายอย่างใด ผู้ขายไม่ต้องคืนเงิน ถ้าได้ผลมากก็เป็นของผู้ซื้อฝ่ายเดียว เป็นการเสี่ยงโชคโดยคำนวณจากดอกลำไยและสุดแต่ดินฟ้าอากาศจะอำนวยให้เป็นผลสักเพียงใด จึงหาใช่สัญญาจะซื้อจะขายธรรมดาไม่ แม้จำเลยจะแถลงว่าการซื้อขายรายนี้เป็นการซื้อขายลำไย แต่เมื่อได้ตกลงกันเช่นนี้ตั้งแต่ยังเป็นดอกลำไยอยู่ ก็ไม่ทำให้พฤติการณ์ดังกล่าวกลายเป็นสัญญาจะซื้อจะขายผลลำไยในภายหน้าไป โดยเหตุว่า คู่สัญญาได้ตกลงซื้อขายกันแน่นอนแล้ว โดยคำนวณราคาจากดอกลำไยเป็นหลัก โจทก์จะเรียกเงินคืนจากจำเลยไม่ได้ พิพากษายืน

Share