คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 898/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พี่ชายโจทก์ซื้อที่ดินและลำรางจากจำเลย เมื่อพี่ชายโจทก์ถึงแก่กรรมโจทก์กับพวกได้รับมรดกที่ดินและลำรางดังกล่าว ต่อมาปรากฏว่าลำรางที่ซื้อจากจำเลยเป็นลำรางสาธารณะ โจทก์กับพวกจึงฟ้องเรียกราคาลำรางและค่าเสียหายจากจำเลย จำเลยเบิกความเท็จต่อศาลในคดีดังกล่าวว่าไม่ได้ขายลำราง โจทก์ย่อมเป็นผู้ได้รับความเสียหาย เนื่องจากการที่จำเลยเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องจำเลยฐานเบิกความเท็จได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้เบิกความเท็จต่อศาลและเป็นข้อสำคัญในคดีในการพิจารณาคดีแพ่งของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งโจทก์กับพวกร่วมกันฟ้องจำเลยเรื่องผิดสัญญาและละเมิด ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๗๗ ให้ลงโทษจำคุก ๑ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยขายลำรางสาธารณะจริง เมื่อจำเลยเบิกความว่าจำเลยไม่ได้ขายลำรางสาธารณะและไม่ได้ทำหลักฐานการซื้อขายไว้ คำเบิกความของจำเลยจึงเป็นเท็จและเป็นข้อสำคัญในคดี แล้ววินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์เป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องหรือไม่ ได้ความว่า นายกิตติ นายเกียรติ และนายเกรียง พี่ของโจทก์ซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ ๗๒๙๑, ๗๒๙๒, ๗๒๙๓ (เลขที่ดิน ๓๙๑, ๓๙๒, ๓๙๓) กับที่ดินโฉนดเลขที่ ๓๐๕๖, ๓๐๙๐ (เลขที่ดิน ๕๑, ๕๘) และลำรางสาธารณะที่พิพาทจากจำเลย นายเกรียงถึงแก่กรรม โจทก์กับนายเกริกไกร ได้รับมรดกที่ดินจากนายเกรียง ต่อมาความปรากฏว่าลำรางที่ซื้อจากจำเลยเป็นลำรางสาธารณะ โจทก์กับพวกจึงฟ้องเรียกราคาลำรางสาธารณะที่พิพาทและค่าเสียหายจากจำเลย จำเลยเบิกความเท็จต่อศาลในคดีนั้น ดังนี้ โจทก์ย่อมเป็นผู้ได้รับความเสียหาย เนื่องจากการที่จำเลยเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒(๔) โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลย แต่ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อนจำเลยมีอายุ ๗๐ ปี สภาพความผิดไม่เป็นการร้ายแรง จำเลยชดใช้เงินค่าเสียหายส่วนหนึ่งให้แก่โจทก์ และโจทก์ก็ไม่ติดใจเอาโทษแก่จำเลยต่อไป สมควรให้รอการลงโทษจำเลยไว้ เพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำเลยไว้มีกำหนด ๒ ปี

Share