คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 898/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การกระทำอันจะเป็นเหตุให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบตาม ม.51 นั้น ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นการกระทำของเจ้าพนักงานหรือกรรมการเท่านั้น จะเป็นการกระทำของบุคคลอื่นใดก็ได้ ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 18 ให้คำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือสมัคร์รับเลือกตั้งในหน่วยใดศษลไม่จำต้องยกคำร้องเสียทีเดียว เพราะกรณีเข้าประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม. 18 ศาลควรให้แก้ไขเพิ่มเติมเสียใหม่ให้ถูกต้องคำสั่งย้อนสำนวน

ย่อยาว

ผู้ร้อง ๆ ว่านายแฟ้มวรพิทยุผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี กระทำการโฆษนาขู่เข็ญกำนันผู้ใหญ่บ้านและประชาชนว่า ถ้าไม่ได้รับเลือกตั้งทางราชการจะส่งมาเป็นข้าหลวงประจำจังหวัดนี้ กำนันผู้ใหญ่บ้านคนใดไม่ช่วยเหลือจะถอดตำแหน่งและพรรคพวกของนายแฟ้มได้ให้ทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้ลงคะแนนแก่นายแฟ้มจึงขอให้ศาลเพิกถอนการเลือกตั้งและทำการเลือกตึ้งใหม่
ศาลชั้นต้นมิได้ดำเนินการพิจารณาแต่ทำความเห็นขึ้นว่า คำร้องนี้ร้องกล่าวโทษ ผู้ได้รับเลือกตั้งและผู้อื่นว่ากระทำผิดทางอาญาหาได้ร้องว่าคณะกรรมการกระทำผิดการเลือกตั้งอย่างใดไม่ และไม่ปรากฎว่าผู้ร้องมีสิทธิเลือตั้งหรือสมัคร์รับเลือกตั้งในหน่วยใด จึงไม่ควรรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาควรยอเสีย
ศาลฎีกาเห็นว่า ม. ๕๑ แห่ง พ.ร.บ. การเลือกตั้งมิได้จำกัดว่าการกระทำอันเป็นเหตุให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบนั้นต้องเป็นการกระทำของเจ้าพนักงานหรือกรรมการเท่านั้น แต่มีความหมายรวมถึงการกระทำของบุคคลใดอื่นด้วยส่วนข้อที่ไม่ปรากฎว่าผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือสมัครรับเลือกตั้งในหน่วยใดนั้น เห็นว่าตาม พ.ร.บ. การเลือกตั้ง ม. ๕๒ เมื่อศาลจังหวัดได้รับคำคัดค้านแล้วให้ดำเนิการไปตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งตาม ม. ๑๘ ศาลมคอำาจที่จะคืคำคู่ความที่ไม่ระบุรายการให้ครบถ้วนแก่ผู้ยื่นไปทำมาใหม่ได้ ไม่จำต้องยกคำร้องเสียทีเดียว จึงมีคำสั่งให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้น จัดการตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. ๑๘ ต่อไปถ้าปรากฎในรายงานว่าผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือสมัคร์รับเลือกตั้งก็ให้ศาลชั้นต้นจัดการไปตาม พ.ร.บ. การเลือกตั้ง ม. ๕๒ ถ้าไม่ปรากฏดังนั้นก็ให้ส่งสำนวนคืนมาศาลฎีกาพร้อมด้วยความเห็น

Share