คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8970/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขอให้ถอนการบังคับคดีโดยชำระหนี้ตามคำพิพากษาพร้อมค่าฤชาธรรมเนียมแห่งคดีและค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีครบถ้วนแล้ว โจทก์รับว่าได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากจำเลยแล้วทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งตามคำขอของจำเลยซึ่งเท่ากับโจทก์ก็ประสงค์ให้ถอนการบังคับคดีเช่นกัน กรณีย่อมไม่มีเหตุบังคับคดีจำเลยอีกต่อไป ไม่ใช่เป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาผู้ยึดสละสิทธิในการบังคับคดี หรือเพิกเฉยไม่ดำเนินการบังคับคดีภายในเวลาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนด ที่จะเป็นเหตุให้ผู้ร้องที่ 1 และที่ 2 มีสิทธิขอให้บังคับคดีต่อไปได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 290 วรรคแปด ศาลฎีกาให้ถอนการบังคับคดีจำเลย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอม โจทก์ขอหมายบังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 39946 ตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ของจำเลยออกขายทอดตลาด
ผู้ร้องที่ 1 ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ที่ยึด ศาลชั้นต้นอนุญาต
ผู้ร้องที่ 2 ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่นศาลชั้นต้นอนุญาต และหากโจทก์สละสิทธิบังคับคดีให้ผู้ร้องที่ 2 บังคับคดีแทน
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ถอนการบังคับคดี และขอให้งดการบังคับคดี
โจทก์ยื่นคำร้องโจทก์ได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาครบถ้วนแล้ว แต่ไม่ทราบว่าต้องถอนการยึด จึงไม่คัดค้านคำร้องของจำเลย และขอให้มีคำสั่งตามที่จำเลยขอ
ผู้ร้องที่ 1 ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง และอนุญาตให้ผู้ร้องที่ 1 สวมสิทธิในการบังคับคดีแทนโจทก์
ผู้ร้องที่ 2 ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้องและอนุญาตให้ผู้ร้องที่ 2 สวมสิทธิในการบังคับคดีแทนโจทก์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังยุติ จำเลยชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้วและจำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีวางศาลแล้ว ปัญหาตามฎีกาของจำเลย มีเหตุถอนการบังคับคดีจำเลยหรือไม่ เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295 บัญญัติว่า ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการบังคับคดีในกรณีต่อไปนี้ (1) เจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการบังคับคดีนั้นเอง หรือถอนโดยคำสั่งศาล แล้วแต่กรณี เมื่อลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้วางเงินต่อศาลหรือต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นจำนวนพอชำระหนี้ตามคำพิพากษา พร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมแห่งคดี หรือค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี หรือได้หาประกันมาให้จนเป็นที่พอใจของศาล สำหรับจำนวนเงินเช่นว่านั้น (2)…. ดังนั้น เมื่อจำเลยขอให้ถอนการบังคับคดี จำเลยชำระหนี้ตามคำพิพากษาพร้อมค่าฤชาธรรมเนียมแห่งคดีและค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีครบถ้วนแล้ว โดยโจทก์รับว่าได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากจำเลยแล้ว ทั้งขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามคำร้องของจำเลย ซึ่งเท่ากับโจทก์ก็ประสงค์ให้ถอนการบังคับคดี ส่วนเจ้าพนักงานบังคับคดีทราบคำร้องของจำเลยแล้ว ไม่ได้คัดค้านว่าจำเลยยังชำระค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีไม่ครบถ้วนต้องฟังว่าจำเลยชำระค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีครบถ้วนแล้วเช่นกัน กรณีย่อมไม่มีเหตุบังคับคดีจำเลยอีกต่อไป ไม่ใช่เป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาผู้ยึดสละสิทธิในการบังคับคดี หรือเพิกเฉยไม่ดำเนินการบังคับคดีภายในเวลาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนด ที่จะเป็นเหตุให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 มีสิทธิขอให้บังคับคดีต่อไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรคแปด ศาลล่างวินิจฉัยมานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับว่า ให้ถอนการบังคับคดีจำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ

Share