คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8945/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามสภาพและพฤติการณ์การกระทำความผิดของจำเลยเป็นความผิดในตัวเอง จำเลยย่อมรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าเมทแอมเฟตามีนเป็นยาเสพติดให้โทษเมื่อนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายเป็นความผิดที่มีโทษสถานหนัก จำเลยจะแก้ตัวว่าไม่รู้กฎหมายเพื่อให้พ้นจากความรับผิดในทางอาญาไม่ได้ และจำเลยก็มิได้แสดงพยานหลักฐานต่อศาลให้เชื่อว่าจำเลยไม่รู้ว่ากฎหมายบัญญัติไว้เช่นนั้น ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยตามบทบัญญัติที่กำหนดกฎเกณฑ์ไว้แน่นอนจึงชอบแล้ว กรณีความผิดของจำเลยไม่ต้องด้วยบทบัญญัติตาม ป.อ. มาตรา 64 ศาลจึงไม่อาจลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๗, ๘, ๑๕, ๖๕, ๖๗, ๑๐๒ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๑, ๑๒ (๑), ๑๘ วรรคสอง, ๖๒ ป.อ. มาตรา ๓๒, ๘๓, ๙๑ ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง, ๖๕ วรรคหนึ่ง, ๖๗ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๑, ๖๒ วรรคหนึ่ง เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม ป.อ. มาตรา ๙๑ ฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักร ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรอันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม ป.อ. มาตรา ๙๐ จำคุกตลอดชีวิต ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางที่กำหนด จำคุก ๒ เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ตาม ป.อ. มาตรา ๗๘ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อคำนวณลดโทษตาม ป.อ. มาตรา ๕๓ แล้ว คงจำคุก ๒๕ ปี ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางที่กำหนด คงจำคุก ๑ เดือน รวมจำคุก ๒๕ ปี ๑ เดือน ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรชอบแล้วหรือไม่ เห็นว่า ตามสภาพและพฤติการณ์การกระทำความผิดของจำเลยเป็นความผิดในตัวเองที่จำเลยย่อมรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าเมทแอมเฟตามีนเป็นยาเสพติดให้โทษเมื่อนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายนั้นเป็นความผิดที่มีโทษสถานหนักอยู่แล้ว จำเลยจะแก้ตัวว่าไม่รู้กฎหมายบัญญัติว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดเพื่อให้พ้นจากความรับผิดในทางอาญาไม่ได้และจำเลยก็มิได้แสดงพยานหลักฐานต่อศาลให้เชื่อว่าจำเลยไม่รู้ว่ากฎหมายบัญญัติไว้เช่นนั้น ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๖๕ วรรคหนึ่ง ระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตาม ป.อ. มาตรา ๗๘ ประกอบด้วย ป.อ. มาตรา ๕๓ แล้ว คงจำคุก ๒๕ ปี เป็นการลงโทษตามบทบัญญัติที่กำหนดกฎเกณฑ์ไว้แน่นอนแล้ว และกรณีความผิดของจำเลยไม่ต้องด้วยบทบัญญัติตาม ป.อ. มาตรา ๖๔ จึงไม่อาจลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษาชอบแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share