คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนหนึ่งของโฉนดโดยการครอบครองที่ดินนอกนั้นเป็นของจำเลยล้อมรอบที่ดินส่วนของโจทก์อยู่ แม้ที่ดินของโจทก์จำเลยอยู่ในโฉนดเดียวกันแต่เมื่อโจทก์จำเลยแยกครอบครองเป็นเจ้าของที่ดินคนละแปลงเป็นส่วนสัดทางพิพาทซึ่งอยู่ในที่ดินส่วนของจำเลยย่อมตกเป็นทางภารจำยอม แก่ที่ดินส่วนของโจทก์โดยอายุความได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองเป็นสามีภริยากันและเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ 1573 โจทก์ปลูกเรือนอยู่ในที่ดินโฉนดดังกล่าวเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว และศาลพิพากษาให้โจทก์มีสิทธิในที่ดินนั้นเนื้อที่ 40 ตารางวา ที่ดินส่วนนี้ตกอยู่ในวงล้อมของที่ดินส่วนของจำเลย ที่ดินส่วนของจำเลยมีทางเดินเข้าออกสู่ถนนสายอ่างทอง – อยุธยาทางกว้างประมาณ 1 วา โจทก์และบริวารใช้ทางเดินนี้เป็นประจำทุกวันมากว่า 50 ปีแล้ว ทางเดินดังกล่าวจึงเป็นภารจำยอม จำเลยได้ทำรั้วปิดกั้นทางนั้น ขอให้ศาลบังคับจำเลยเปิดทางดังกล่าว และให้จำเลยไปจดทะเบียนเป็นทางภารจำยอมหากไม่ไปก็ขอให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

จำเลยทั้งสองให้การว่า ทางพิพาทอยู่ในที่ดินโฉนดที่ 1573 เพียงแปลงเดียวซึ่งโจทก์จำเลยมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน จึงไม่อาจตกเป็นภารจำยอมได้ โจทก์เพิ่งใช้ทางพิพาทเมื่อปลายปี พ.ศ. 2514 ไม่ถึง 10 ปี ยังไม่ได้ภารจำยอมโดยอายุความขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเปิดทางพิพาทกว้างประมาณ 1 วา ยาวตลอดที่ดินของจำเลย ให้จำเลยไปจดทะเบียนทางภารจำยอมที่สำนักงานที่ดินจังหวัดอ่างทองหากไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนด 1573 เฉพาะบริเวณที่โจทก์ปลูกบ้านเรือนอยู่อาศัยอยู่ เนื้อที่ 40 ตารางวา และมีที่ดินของจำเลยล้อมรอบที่ดินของโจทก์ ที่ดินของโจทก์จำเลยอยู่ในโฉนดเดียวกันแต่ยังไม่ได้แบ่งแยก โจทก์ครอบครองที่ดินเฉพาะส่วนของโจทก์ ที่ดินนอกนั้นจำเลยครอบครอง ทางพิพาทอยู่ในส่วนที่จำเลยครอบครองทั้งหมดและโจทก์ใช้ทางพิพาทมาเกินกว่า10 ปีแล้ว

ศาลฎีกาวินิจฉัยในปัญหาข้อกฎหมายว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดที่ 1573 บริเวณที่โจทก์ปลูกบ้านเรือนอยู่อาศัยโดยการครอบครองถึงแม้ว่าที่ดินส่วนของโจทก์กับส่วนของจำเลยจะยังอยู่ในโฉนดเดียวกัน แต่ก็ฟังได้ว่าโจทก์จำเลยแยกครอบครองเป็นเจ้าของที่ดินคนละแปลงเป็นส่วนสัด ทางพิพาทซึ่งอยู่ในที่ดินส่วนของจำเลยย่อมตกเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินส่วนของโจทก์โดยอายุความตามกฎหมายแล้ว ตามข้อเท็จจริงที่ฟังได้ดังกล่าว ภารจำยอมจึงเกิดในที่ดินโฉนดเดียวกันได้

พิพากษายืน

Share