แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ทราบดีอยู่แล้วในขณะทำสัญญาว่าที่ดินพิพาทเป็นของบุตรผู้เยาว์ของจำเลย ซึ่งจะต้องขออนุญาตศาลก่อนจึงจะขายได้จำเลยยื่นคำร้องต่อศาล ขออนุญาตขายที่ดินแทนผู้เยาว์ภายหลังทำสัญญาจะซื้อขายกับโจทก์เพียงเดือนเศษไม่ปรากฏว่าพยานหลักฐานที่จำเลยนำเข้าไต่สวนในคดีดังกล่าวนั้น จำเลยจงใจจะไม่ให้ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตเพื่อหลีกเลี่ยงการโอนขายที่ดินให้แก่โจทก์ การที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ขายที่ดินของบุตรผู้เยาว์ จะถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่จำเลยต้องรับผิดชอบหาได้ไม่ จำเลยไม่ผิดสัญญาจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าปรับให้แก่โจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาขายที่ดินโฉนดเลขที่ 424 ให้แก่โจทก์ในราคา 770,000 บาท โจทก์วางมัดจำไว้แล้วเป็นเงิน 200,000 บาทส่วนที่เหลือ 570,000 บาท ตกลงชำระในวันที่ 2 กรกฎาคม 2530ซึ่งเป็นวันกำหนดรับโอนที่ดินหากไม่ชำระตามกำหนด โจทก์ยอมให้จำเลยริบเงินมัดจำ ถ้าจำเลยไม่ยอมขาย ยอมให้โจทก์ปรับเป็นเงิน200,000 บาท เมื่อครบกำหนดวันที่ 2 กรกฎาคม 2530 จำเลยไม่สามารถโอนขายที่ดินได้ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน 400,000บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ทราบดีว่าที่ดินโฉนดที่ 424 ที่จะขายนั้นเป็นของเด็กหญิงเกษรและเด็กหญิงลียาบุตรผู้เยาว์ของจำเลยซึ่งจำเลยไม่มีสิทธินำที่ดินดังกล่าวไปขายให้โจทก์โดยพลการ และต่อมาศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ขายที่ดินแปลงนี้ จึงเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่ความผิดของจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับส่วนเงินมัดจำจำเลยได้ให้ทนายจำเลยมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ไปรับคืนแล้ว โจทก์ไม่ไปรับคืนเองจำเลยมิได้ผิดนัด โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกดอกเบี้ย
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยได้นำเงินมัดจำ 200,000 บาทมาวางไว้ต่อศาลชั้นต้นเพื่อให้โจทก์รับไป และโจทก์ได้รับเงินมัดจำดังกล่าวคืนไปแล้ว โจทก์คงติดใจดำเนินคดีเกี่ยวกับเบี้ยปรับและดอกเบี้ยต่อไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยให้โจทก์อัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 200,000 บาท นับแต่วันที่ครบกำหนดชำระตามหนังสือทวงถามจนถึงวันที่วางเงิน
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ทราบดีอยู่แล้วในขณะทำสัญญาว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของบุตรผู้เยาว์ของจำเลย ซึ่งจะต้องขออนุญาตศาลก่อนจึงจะขายได้ และข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยยื่นคำร้องต่อศาลอนุญาตขายที่ดินแทนผู้เยาว์ภายหลังทำสัญญาจะซื้อขายกับโจทก์เพียงเดือนเศษ ไม่ปรากฏว่าพยานหลักฐานที่จำเลยนำเข้าไต่สวนในคดีดังกล่าวนั้น จำเลยจงใจจะไม่ให้ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตเพื่อหลีกเลี่ยงการโอนขายที่ดินให้แก่โจทก์ การที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ขายที่ดินของบุตรผู้เยาว์จะถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่จำเลยต้องรับผิดชอบหาได้ไม่ จำเลยไม่ผิดสัญญาจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าปรับให้แก่โจทก์ตามสัญญา
พิพากษายืน