แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทำใบเสร็จค่ายางปลอมไปแสดงต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปล่อยผู้อื่นที่ถูกจับเรื่องยางนั้น เมื่อปรากฎว่าผู้ที่ถูกจับมิได้กระทำผิดอย่างใดแล้วผู้แสดงใบเสร็จก็ไม่มีผิดฐานช่วยให้พ้นจากอาญาตาม ม.154
ทำใบเสร็จปลอมว่ายางที่ถูกจับเป็นของตนเพื่อจะใหเจ้าพนักงานปล่อยตัวผู้ถูกจับนั้น ไม่เป็นผิดฐานพยายามฉ้อโกง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงอาญาเมื่อปรากฎว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด ศาลอุทธรณ์ก็ยกฟ้องได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนำเอาเใบเสร็จรับเงินค่ายางรถจักรยานปลอมไปแสดงต่อพนักงานสอบสวนว่ายางที่จับได้จาก ป.นั้น เป็นของตนโดยเจตนาช่วยให้ผู้ที่ได้กระทำผิดอันควรต้องรับอาญาตามกฎหมาย จึงขอให้ลงโทษจำเลยฐานช่วยเหลือผู้กระทผิด จำเลยรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงอาญา ศาลอุทธรณ์เห็นว่าความผิดตาม ม.๑๕๔ นั้นจำเลยไม่มีความผิดเพราะ ป.ซึ่งจำเลยเจตนาจะช่วยนั้นมิได้กระทำผิด ส่วนฐานพยายามฉ้อนั้นจำเลยเจตนาจะช่วย ป.มิได้เจตนาจะเอายางของนายจั๊วเป็นประโยชน์ตน จึงไม่มีผิดฐานพยายามฉ้อ จึงพิพากษายกฟ้อง แม้จำเลยไม่อุทธรณ์ก็ยกฟ้อง แม้จำเลยไม่อุทธรณ์ก็ยกฟ้องได้ จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าความผิดฐานช่วยผู้อื่นให้พ้นอาญาตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๔ นั้นเน้นเรื่องช่วยผู้กระทผิดหรือผู้ร้ายตามฟ้องโจห ป. มิได้กระทำผิดตามที่พนักงานสอบสวนสงสัยโดยนายจั๊วเจ้าของยางมอบยางให้ ป.นำไปอุตตรดิตถ์ ป. จึงไม่ใช่ผู้ร้ายหรือบุคคลอันควรรับอาญาตามกฎหมายแต่ประการใด คำว่าผู้ต้องหาตาม ม.๑๕๔ นั้น ย่อมหมายถึงผู้ต้องหาอันควรรับอาญาตามกฎหมาย ส่วนข้อหาฐานพยายามฉ้อโกง ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์ จึงพิพากษายืน