คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8847/2552

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีนี้เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ 969/2547 ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏแก่ศาลฎีกาว่า คดีอาญาหมายเลขดำที่ 968/2547 มีการนับโทษจำเลยทั้งสองต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 965/2547, 966/2547, 967/2547 แล้ว คดีนี้จึงนับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ 965/2547, 966/2547, 967/2547 อีกไม่ได้ เพราะเป็นการนับโทษซ้อนกันไม่ชอบด้วย ป.อ. มาตรา 22 วรรคหนึ่ง
ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาให้นับโทษจำเลยทั้งสองต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 968/2547 ซึ่งเป็นคดีที่ได้มีคำพิพากษาไปก่อนหน้าคดีนี้แล้ว เป็นการใช้ดุลพินิจของศาลในการกำหนดให้เริ่มนับโทษจำคุกคดีนี้ต่อจากโทษในคดีก่อนจึงชอบแล้ว และไม่เป็นการนับโทษซ้อนกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 341 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 30, 82, 91 ตรี ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนเงินแก่ผู้เสียหาย 60,000 บาท กับให้นับโทษจำเลยทั้งสองต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 965/2547, 966/2547, 967/2547, 968/2547, 970/2547 และ 971/2547 ของศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยทั้งสองในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 91 ตรี ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 91 ตรี ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกคนละ 3 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน ให้นับโทษจำเลยทั้งสองต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 965/2547 หมายเลขแดงที่ 1028/2547, คดีอาญาหมายเลขดำที่ 966/2547 หมายเลขแดงที่ 1029/2547, คดีอาญาหมายเลขดำที่ 967/2547 หมายเลขแดงที่ 1030/2547 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ 968/2547 หมายเลขแดงที่ 1031/2547 ของศาลชั้นต้น และให้จำเลยทั้งสองคืนเงิน 40,000 บาท แก่ผู้เสียหาย คำขออื่นให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำหน่ายคดีเฉพาะข้อหาความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 83 และยกคำขอที่ให้จำเลยทั้งสองคืนเงินแก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองมีว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาให้นับโทษจำเลยทั้งสองคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 965/2547 หมายเลขแดงที่ 1028/2547, คดีอาญาหมายเลขดำที่ 966/2547 หมายเลขแดงที่ 1029/2547, คดีอาญาหมายเลขดำที่ 967/2547 หมายเลขแดงที่ 1030/2547 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ 968/2547 หมายเลขแดงที่ 1031/2547 ของศาลชั้นต้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ข้อเท็จจริงปรากฏแก่ศาลฎีกาว่า ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 968/2547 หมายเลขแดงที่ 1031/2547 ของศาลชั้นต้น ได้มีการนับโทษจำเลยทั้งสองในคดีดังกล่าวต่อจากโทษคดีอาญาหมายเลขดำที่ 965/2547 หมายเลขแดงที่ 1028/2547, คดีอาญาหมายเลขดำที่ 966/2547 หมายเลขแดงที่ 1029/2547 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ 967/2547 หมายเลขแดงที่ 1030/2547 ของศาลชั้นต้นตามคำขอของโจทก์แล้ว คดีนี้จึงนับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ 965/2547 หมายเลขแดงที่ 1028/2547, คดีอาญาหมายเลขดำที่ 966/2547 หมายเลขแดง ที่ 1029/2547, และคดีอาญาหมายเลขดำที่ 967/2547 หมายเลขแดงที่ 1030/2547 ของศาลชั้นต้น อีกไม่ได้ เพราะเป็นการนับโทษซ้อนกันไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 วรรคหนึ่ง ส่วนที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาให้นับโทษจำเลยทั้งสองต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 968/2547 หมายเลขแดงที่ 1031/2547 ของศาลชั้นต้น ซึ่งเป็นคดีของจำเลยทั้งสองที่ได้มีคำพิพากษาไปก่อนหน้าคดีนี้แล้ว กรณีดังกล่าวเป็นการใช้ดุลพินิจของศาลในการกำหนดให้เริ่มนับโทษจำคุกคดีนี้ต่อจากโทษในคดีก่อนจึงชอบแล้ว และไม่เป็นการนับโทษซ้อนกัน ฎีกาของจำเลยทั้งสองข้อนี้ฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า ยกคำขอให้นับโทษคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 965/2547 หมายเลขแดงที่ 1028/2547, คดีอาญาหมายเลขดำที่ 966/2547 หมายเลขแดงที่ 1029/2547 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ 967/2547 หมายเลขแดงที่ 1030/2547 ของศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6

Share