แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยกู้เงินโจทก์หลายครั้ง ออกเช็คมอบให้เป็นประกันต่อมาจึงตกลงทำหนังสือกัน โดยจำเลยยอมรับว่าเป็นลูกหนี้โจทก์ จะผ่อนชำระเป็นงวด ๆ โดยออกเช็คชำระให้และระบุด้วยว่า หากโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายไว้ก่อนทำสัญญานี้ ก็ให้ถือว่าโจทก์ยอมสละสิทธิที่จะไม่ดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยต่อไป ดังนี้ เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 แม้จะเรียกว่าหนังสือรับสภาพหนี้ก็ตาม เมื่อคู่สัญญา ได้ลงลายมือชื่อไว้จึงมีผลตามมาตรา 852 คือทำให้การเรียกร้อง ซึ่งแต่ละฝ่ายยอมสละนั้นระงับสิ้นไปและทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิ ตามที่แสดงไว้ในสัญญานั้นว่าเป็นของตน
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 220,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีมีประเด็นตามฎีกาของจำเลยว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว เพราะเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 1 มิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ ได้พิจารณาแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่คู่ความไม่โต้เถียงกันว่า ระหว่างต้นปี พ.ศ. 2518 ถึงเดือนพฤษภาคม 2519 จำเลยกู้เงินโจทก์ไปหลายครั้ง และออกเช็คมอบให้เป็นประกันต่อมาวันที่ 15 มิถุนายน 2519 โจทก์จำเลยจึงได้ตกลงทำหนังสือเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 1 ว่าจำเลยยอมรับว่าเป็นลูกหนี้โจทก์ 220,000 บาท จำเลยจะชำระให้ในปี พ.ศ. 2520 เป็นจำนวน 40,000 บาท โดยออกเช็คฉบับละ 3,334 บาท รวม 12 ฉบับ ฉบับแรกลงวันที่ 10 มกราคม 2520 และต่อไปทุกวันที่ 10 ของแต่ละเดือน จะชำระให้ในปี พ.ศ. 2521 เป็นจำนวน 80,000 บาท โดยออกเช็คลงวันที่ 1 มกราคม 2521 จะชำระให้ในปี พ.ศ. 2522 เป็นจำนวน 100,000 บาท โดยออกเช็คลงวันที่ 1 มกราคม 2522 เมื่อเช็คฉบับใดถึงกำหนดและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ให้โจทก์นำเช็คนั้นมาแลกเงินสดจากจำเลยได้ทันที หากจำเลยผิดนัดไม่ชำระเงินตามเช็คฉบับใดถือว่าจำเลยผิดนัดทั้งหมด อนึ่ง ในข้อ 4 ของเอกสารดังกล่าวระบุไว้ด้วยว่า ” หากปรากฏว่าเจ้าหนี้ (คือโจทก์) เป็นผู้ทรงเช็คซึ่งลูกหนี้ (คือจำเลย) เป็นผู้สั่งจ่ายไว้ก่อนทำสัญญานี้ ก็ให้ถือว่าเจ้าหนี้ยอมสละสิทธิจะไม่ดำเนินคดีอาญาอย่างใดแก่ลูกหนี้อีกต่อไป” ข้อความในเอกสารฉบับนี้เป็นข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยโดยจำเลยยอมชำระหนี้ให้แก่โจทก์ด้วยการผ่อนชำระเป็นงวด ๆ และโจทก์ยอมสละสิทธิที่จะดำเนินคดีอาญาเกี่ยวกับเช็คที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายให้ไว้ก่อนทำเอกสารนี้อันเป็นสัญญาซึ่งทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่ง ซึ่งมีอยู่แล้วให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน เข้าลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 เอกสารนี้คู่สัญญาได้ลงลายมือชื่อไว้ จึงมีผลตามมาตรา 852 คือทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายยอมสละนั้นระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงไว้ในสัญญานั้นว่าเป็นของตน แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องเรียกเอกสารนี้ว่าหนังสือรับสภาพหนี้ก็ตาม ก็ยังเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความอยู่นั่นเอง เมื่อคดีได้ความว่าเช็คฉบับแรกซึ่งลงวันที่ 10 มกราคม 2520 ถึงกำหนดโจทก์นำไปเรียกเก็บ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน และเมื่อนำไปแลกเงินสดจากจำเลยตามข้อตกลง จำเลยก็ไม่ชำระอันเป็นการผิดนัดแล้วสิทธิเรียกร้องของโจทก์ให้จำเลยชำระหนี้ตามฟ้องจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2520 และมีอายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164 โจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 22 มีนาคม 2522 จึงยังไม่ขาดอายุความ และที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกาแทนโจทก์ 1,000 บาท