คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อโจทก์อ้างว่าได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนผู้อื่นมีเอกสารยืนยัน แต่กลับปรากฎแก่ศาลว่า เอกสารที่ว่านี้หามีการมอบอำนาจเช่นนั้นไม่ สิทธิฟ้องคดีแทนก็ตกไป คงเหลือแต่ที่ฟ้องในนามของตัวเอง
ในฟ้องโจทก์กล่าวแต่เพียงว่าสลาก กล่องใส่ยา สำลีในชวด ปลอมแต่ไม่กล่าวว่ายกที่จำเลยสั่งเข้ามาขายนั้นปลอม ดังนี้ เรื่องยาปลอมก็ไม่เป็นประเด็น กลับต้องถือว่าเป็นยาแท้
การที่โจทก์รับมอบให้ขายยาแต่ผู้เดียวนั้น เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับบริษัทผู้มอบ โจทก์หามีสิทธิห้ามคนอื่นมิให้จำหน่ายยาเช่นนั้นไม่
อนึ่ง แม้ยาที่จำเลยจำหน่ายจะมีสลาก กล่อง และสำลีปลอม ก็ไม่ใช่เรื่องโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ซึ่งเป็นแต่ผู้จำหน่ายฟ้องโจทก์จึงไม่มีมูลที่จะว่ากล่าวกับจำเลย
การปลอมและเลียนแบบเครื่องหมายการค้า เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานจะจับกุมเอง แม้ไม่มีผู้แจ้งความ ฉะนั้น การที่โจทก์ไปแจ้งความ จึงเป็นการช่วยเหลือให้ความสดวกแก่เจ้าพนักงาน ถ้าทำโดยสุจริตไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง ย่อมไม่ต้องรับผิด การที่ตำรวจยึดยา เป็นเรื่องใช้ดุลพินิจของเขา การยึดยาก่อนพิพากษาก็เป็นอำนาจของศาลจะถือว่าโจทก์ละเมิดมิได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เป็นตัวแทนจำหน่ายยาของบริษัทปาร์คเดวิส จำกัด แห่งสหรัฐอเมริกาแต่ผู้เดียวในประเทศไทย และรับมอบให้ดำเนินคดีเกี่ยวกับสิทธิเครื่องหมายการค้าด้วย จำเลยได้สั่งยาโคลโรไมเซติน จากฮ่องกงมาจำหน่ายปรากฎว่าสลากปิดขวด กล่องกระดาษและสำลีในขวดปลอม ได้ร้องทุกข์ดำเนินคดี เจ้าพนักงานยึดยาของกลางไว้ การกระทำของจำเลยเสียหายแก่โจทก์และบริษัทผู้ผลิตยา เป็นการละเมิด ขอให้ใช้ค่าเสียหายและทำลายยากับกล่องบรรจุยา ห้ามจำหน่ายยาต่อไป
จำเลยให้การปฏิเสธและฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหาย
ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายตามฟ้องแย้ง
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง แต่การที่โจทก์แจ้งความกล่าวโทษจำเลยนั้นโดยสุจริต ไม่ถือว่าละเมิด พิพากษาแก้ ยกฟ้องแย้ง
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาว่า เมื่อพิเคราะห์เอกสาร จ. ๑ แล้ว หามีการมอบอำนาจให้ฟ้องร้องไม่ ข้อที่โจทก์อ้างว่ามีสิทธิฟ้องแทนบริษัทปาร์คเดวิสจึงตกไป คงเหลือแต่ที่โจทก์ฟ้องในนามของตัวเองเท่านั้น ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มิได้กล่าวอ้างว่ายาที่จำเลยสั่งมานั้นเป็นยาปลอม เรื่องยาปลอมจึงไม่เป็นประเด็น และตรงกันข้าม ต้องถือว่าเป็นยาแท้ หากแต่สลาก กล่อง และสำลีในขวดเท่านั้นที่โจทก์อ้างว่าปลอม มิใช่ของบริษัทปาร์คเดวิส แม้จะฟังว่าโจทก์ได้รับมอบหมายให้จำหน่ายยานี้แต่ผู้เดียว แต่นั่นก็เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับบริษัทปาร์คเดวิสมิได้ก่อให้เกิดสิทธิเหนือคนทั่วไปที่จะไม่ให้ใครจำหน่ายยาของบริษัทปาร์คเดวิส แม้ยาที่จำเลยจำหน่ายจะมีสลากใส่กล่องและใช้สำลีปลอมจริง ก็ไม่ใช่เรื่องโต้แย้งสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นแต่ผู้จำหน่ายเท่านั้น ฟ้องของโจทก์จึงไม่มีมูลที่จะว่ากล่าวกับจำเลย คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว
ในเรื่องค่าเสียหายนั้น เห็นว่า เครื่องหมายการค้า คำว่า “โคลโรไมเซติน” บริษัทปาร์คเดวิสจำกัดได้จดทะเบียนในประเทศไทยโดยชอบแล้ว การปลอมและเลียนแบบและนำสินค้าปลอมหรือเลียนแบบเข้ามาย่อมเป็นผิดอาญาแผ่นดินเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานที่จะจับกุม แม้จะไม่มีผู้ใดแจ้งความกล่าวหา การแจ้งความของโจทก์เป็นเรื่องช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่เจ้าพนักงาน เท่านั้น หากกระทำโดยสุจริตแล้วไม่ต้องรับผิด เรื่องนี้ โจทก์เข้าใจว่ามีอำนาจ และผลของการพิสุจน์ปรากฎว่า สลาก กล่องที่บรรจุยา ก็เป็นของปลอมจริง จึงถือไม่ได้ว่าตนก็มีเจตนากลั่นแกล้ง การที่เจ้าพนักงานตำรวจได้จับจำเลยและยึดยารายนี้ไว้เป็นของกลางนั้น เป็นเรื่องของเจ้าพนักงานตำรวจใช้ดุลยพินิจ การฟ้องและขอให้ศาลยึดยาไว้ โจทก์ก็ได้ฟ้องร้องตามความเป็นจริง การยึดยาไว้ก่อนพิพากษาก็เป็นการกระทำของศาลตามอำนาจ จะถือว่าโจทก์ละเมิดไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ค่าเสียหายแก่จำเลยนั้น ชอบแล้ว พิพากษายืน

Share