คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่โจทก์ประกอบกิจการห้องอาหารโดยมีดนตรีไม่ว่าดนตรีนั้นจะมีเฉพาะเวลากลางคืนหรือไม่ก็ตาม ไม่ถือว่าโจทก์ประกอบการค้าประเภทการค้า 7.(ง)ภัตตาคารอื่นนอกจาก(ค) แต่ถือเป็นการประกอบการค้าประเภทการค้า 7.(ก) ไนท์คลับหรือคาบาเรต์ แห่งบัญชีอัตราภาษีการค้าตาม ประมวลรัษฎากร
ประมวลรัษฎากร มาตรา 79 ตรี (9) บัญญัติยกเว้นให้ไม่ต้องนำรายรับจากการขายน้ำอัดลมของภัตตาคารตามประเภทการค้า 7.(ค) ภัตตาคารที่มีหญิงบำเรอสำหรับปรนนิบัติลูกค้าหรือมีที่สำหรับพักผ่อนหลับนอนหรือมีบริการนวดให้แก่ลูกค้าตามบัญชีอัตราภาษีการค้ามารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีการค้า เมื่อการค้าของโจทก์เป็นการค้าประเภทการค้า 7.(ก) ไนท์คลับหรือคาบาเรต์ โจทก์จึงไม่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำรายรับจากการขายน้ำอัดลมมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีการค้า.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จดทะเบียนประกอบการค้าประเภท 7.(ง) เริ่มประกอบการค้าตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2522 ถึงเดือนกันยายน 2523 โดยเปิดบริการขายอาหารและเครื่องดื่มไม่มีดนตรีประกอบ จึงได้รับยกเว้นภาษีการขายเครื่องดื่มตามมาตรา 79 ตรี(9) แห่งประมวลรัษฎากร ต่อมาเดือนตุลาคม 2523 โจทก์จดทะเบียนแก้ไขประเภทการค้าโดยเพิ่มประเภท 7.(ก)ขึ้นอีก โดยมีดนตรีเฉพาะเวลากลางคืน ในเวลากลางวันจึงได้รับยกเว้นภาษีการขายเครื่องดื่มมาตรา 79 ตรี(9) โจทก์เสียภาษีครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมาย แต่เจ้าพนักงานประเมินเห็นว่าโจทก์ไม่ได้รับยกเว้นภาษีการขายเครื่องดื่มตามมาตรา 79 ตรี(9) และประเมินเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเพิ่มเป็นเงิน 1,201,517.47 บาท โจทก์อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยว่าการประเมินถูกต้องและชอบแล้ว โจทก์จึงฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยดังกล่าว และพิพากษาว่าโจทก์ไม่มีหน้าที่ชำระภาษีตามที่ประเมิน
จำเลยทั้งสี่ให้การว่าการประเมินและคำวินิจฉัยถูกต้องและชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “…ข้อเท็จจริงเชื่อได้ว่าโจทก์ดำเนินกิจการห้องอาหารโดยมีดนตรีด้วยตลอด ไม่ใช่มีแต่เฉพาะวันสำคัญดังที่อ้างเพราะแม้แต่คำฟ้องของโจทก์เองก็ยังยอมรับว่าโจทก์ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีการค้าประเภทการค้า 7.(ก)แต่บ่ายเบี่ยงว่าเป็นเพราะโจทก์กรอกรายการผิด กิจการห้องอาหารของโจทก์ไม่ว่าโจทก์จะมีดนตรีเฉพาะกลางคืนหรือไม่ก็ตาม จึงไม่ใช่ประเภทการค้า 7.(ง) ภัตตาคารอื่นนอกจาก (ค) แต่เป็นประเภทการค้า 7.(ก)ไนท์คลับหรือคาบาเรต์ แห่งบัญชีอัตราภาษีการค้า ตามความหมายของมาตรา 77 แห่งประมวลรัษฎากร
โจทก์อุทธรณ์ประการหลังว่า การขายน้ำอัดลมของโจทก์ไม่ต้องนำมารวมเพื่อเสียภาษีการค้าด้วย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 เป็นต้นมา เพราะโจทก์ได้รับยกเว้นตามประมวลรัษฎากร มาตรา 79 ตรี(9) ได้ความว่าเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมนี้ขณะพิพาทประมวลรัษฎากร มาตรา 79 ตรี(9)บัญญัติยกเว้นไม่ต้องนำรายรับมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีการค้าด้วยเฉพาะการขายน้ำอัดลมของภัตตาคาร ประเภทการค้า 7(ค) ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าซึ่งรายการที่ประกอบการค้าจะต้องเป็นภัตตาคารที่มีหญิงบำเรอสำหรับปรนนิบัติลูกค้า หรือมีที่สำหรับพักผ่อนหลับนอนหรือมีบริการนวดให้แก่ลูกค้า ส่วนการค้าของโจทก์เป็นกิจการห้องอาหารที่มีดนตรีอันเป็นกิจการประเภทการค้า 7.(ก) ไนท์คลับหรือคาบาเรต์ โจทก์จึงไม่ได้รับยกเว้นมิให้นำรายรับในการขายน้ำอัดลมมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีการค้าดังโจทก์อุทธรณ์ ไม่ว่าโจทก์จะอ้างว่าได้จัดให้มีดนตรีเฉพาะกลางคืนหรือไม่ก็ตาม ก็หามีผลทำให้โจทก์ได้รับยกเว้นตามบทกฎหมายมาตราดังกล่าวไม่ นอกจากนี้แล้วโจทก์จะอ้างว่ากฎหมายบัญญัติพลั้งเผลอไปเมื่อบัญยัติประเภทการค้า 7.(ง) เพิ่มเติม เมื่อพ.ศ. 2521 แล้วไม่ได้บัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมข้อยกเว้นตามมาตรา 79ตรี(9) ให้รวมถึงประเภทการค้า 7.(ง) ด้วย ก็ไม่เกี่ยวกับกรณีของโจทก์ซึ่งเป็นประเภทการค้า 7.(ก) แต่อย่างใด การประเมินภาษีการค้าของจำเลยที่ 1 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายแล้ว ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้องชอบแล้วอุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ให้โจทก์ใช้ค่าทนายความในชั้นอุทธรณ์แทนจำเลยทั้งสี่ 8,000 บาท.

Share