แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีอาญาเมื่อศาลชั้นต้นเห็นเป็นการสมควร ก็มีอำนาจสั่งเรียกสำนวนการสอบสวนมาประกอบการพิจารณา และมีอำนาจ หมายเรียกบุคคลอื่นที่คู่ความมิได้อ้างมาเป็นพะยานได้
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าสมคบกันกระทำการปล้นทรัพย์และการทำร้าย ส. บุตร์โจทก์ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตาม ม. ๒๕๐ – ๓๐๑
ศาลชั้นต้นสั่งเรียกสำนวนชั้นสอบสวนและเรียกนายอำเภอมาเบิกความประกอบการพิจารณา แล้วพิพากษาพะยานโจทก์ยังไม่พอจะฟังลงโทษจำเลยได้ พิพากษาให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตาม โจทก์ฎีกาาว่าศาลไม่มีอำนาจเรียกสำนวนชั้นสอบสวนและนายอำเภอมาเบิความเป็นพะยาน
ศาลฎีกาเห็นว่าตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม. ๑๗๕ เมื่อศาลชั้นต้น เห็นสมควรจะเรียกสำนวนการสอบสวนมาประกอบการวินิจฉัยก็ย่อมทำได้ และตาม ม. ๒๒๘ เมื่อศาลชั้นต้นเห็นสมควรจะสั่งสืบพะยานเพิ่มเติมเพื่อให้คดีปรากฎชัดแจ้งว่าความจริงเป็นอย่างไรก็ย่ามมีอำนาจทำได้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ยกฎีกาโจทก์