แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฎีกาของจำเลยที่กล่าวเพียงว่า “จำเลยขอถือคำอุทธรณ์ของจำเลยเป็นส่วนหนึ่งของฎีกา” ไม่เป็นฎีกาที่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 แม้ต่อมาจำเลยจะได้ยื่นคำแถลงการณ์บรรยายโต้แย้งคำพยานโจทก์ว่าเบิกความแตกต่างกัน ก็ไม่ทำให้ฎีกาโดยย่อนั้นกลายเป็นฎีกาโดยชัดแจ้งขึ้นมา
บันทึกที่มีใจความว่า “1. โจทก์ยืนยันว่าถ้าจำเลยนำหลักฐานการซื้อขายมาแสดงได้ ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทต่อไป 2. จำเลยยืนยันว่าได้ซื้อขายมีหลักฐานเป็นหนังสือทำที่บ้านกำนันกาศจะนำหลักฐานมาแสดง ถ้าไม่สามารถนำมาแสดงได้ยอมคืนที่ดินให้โจทก์โดยไม่เรียกร้องค่าตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น” เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ได้มอบที่ดินให้จำเลยดูแลแทน ต่อมาจำเลยอ้างว่าซื้อจากโจทก์ โจทก์ไปร้องเรียนต่อนายอำเภอ ในที่สุดโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อกัน แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญานั้น จึงขอให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความโดยมอบที่ดินให้โจทก์ และห้ามจำเลยกับบริวารเกี่ยวข้องอีกต่อไป
จำเลยต่อสู้ว่าได้ซื้อที่พิพาทจากโจทก์ ข้อตกลงที่โจทก์อ้างมิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ หรือหากใช่ก็ยกเลิกไปแล้ว
ศาลชั้นต้นฟังว่าบันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยมิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ได้ฝากที่พิพาทไว้กับจำเลย พิพากษาให้จำเลยมอบที่พิพาทให้โจทก์ และห้ามจำเลยกับบริวารเกี่ยวข้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าข้อตกลงนั้นเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ และฟังว่าโจทก์ได้ฝากที่พิพาทไว้กับจำเลยจริง พิพากษายืน
จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายและฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงโดยกล่าวแต่เพียงว่า “จำเลยขอถือคำอุทธรณ์ของจำเลยเป็นส่วนหนึ่งของฎีกาฉบับนี้ด้วย”
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงตามที่จำเลยกล่าวมานั้น ถือไม่ได้ว่าได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงที่จะยกขึ้นฎีกาไว้โดยชัดแจ้ง จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๙ แม้ต่อมาจำเลยจะได้ยื่นคำแถลงการณ์ต่อศาลฎีกาบรรยายโต้แย้งคำพยานโจทก์ว่าเบิกความแตกต่างกัน ก็ไม่ทำให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงโดยย่อของจำเลยกลายเป็นฎีกาโดยชัดแจ้งขึ้นมาได้
ส่วนปัญหาข้อกฎหมาย เห็นว่า บันทึกที่นายอำเภอทำไว้มีใจความว่า ๑. โจทก์ยืนยันว่าถ้าจำเลยนำหลักฐานการซื้อขายมาแสดงได้ ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทต่อไป ๒. จำเลยยืนยันว่าได้ซื้อขายมีหลักฐานเป็นหนังสือทำที่บ้านกำนันกาศ จะนำหลักฐานมาแสดง ถ้าไม่สามารถนำมาแสดงได้ ยอมคืนที่ดินให้โจทก์โดยไม่เรียกร้องค่าตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น นั้น เข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๕๐ แล้ว
เมื่อจำเลยนำหลักฐานสัญญาซื้อขายมาแสดงมิได้ ก็ต้องแพ้คดีแก่โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น
พิพากษายืน.