คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8746/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมอบอำนาจให้ ภ. บุตรชายยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแทน โดยในใบมอบฉันทะระบุข้อความว่า จำเลยยอมรับผิดในกรณีที่ผู้รับมอบฉันทะของจำเลยได้ทำการไปนั้นทุกประการ และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้เลื่อนคดีไปนัดสืบพยานจำเลยโดย ภ. ได้ลงลายมือชื่อทราบกำหนดวันนัดสืบพยานใหม่แล้ว ถือได้ว่า ภ. เป็นผู้มีสิทธิทำการแทนจำเลยในการขอเลื่อนคดีและกำหนดวันนัด เมื่อ ภ. ได้ทราบวันนัดพิจารณาแล้วจึงถือว่าจำเลยทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโดยชอบแล้ว การที่จำเลยอ้างว่าเข้าใจผิดและไม่มีเจตนาที่จะไม่ไปศาลในวันนัดดังกล่าว เป็นเรื่องความเข้าใจผิดโดยมีมูลเหตุมาจากความเข้าใจของจำเลยเอง ถือว่าเป็นการจงใจของจำเลยที่จะไม่ไปศาลตามกำหนดนัด

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้เงินพร้อมดอกเบี้ย หากจำเลยไม่ชำระให้ยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยมาชำระหนี้ให้โจทก์จนครบ จำเลยยื่นคำให้การ แต่ขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี…
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นว่า จำเลยมอบอำนาจให้ ภ. บุตรชาย ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแทน เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๔๒ โดยในใบมอบฉันทะระบุข้อความว่า จำเลยยอมรับผิดในกรณีที่ผู้รับมอบฉันทะของจำเลยได้ทำการไปนั้นทุกประการ และศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้เลื่อนคดีไปนัดสืบพยานจำเลยในวันที่ ๑๗ และวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๒ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา โดย ภ. ผู้รับมอบฉันทะจากจำเลยได้ลงลายมือชื่อทราบกำหนดวันนัดสืบพยานใหม่แล้ว ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๔๒ ดังนี้ ถือได้ว่า ภ. เป็นผู้มีสิทธิทำการแทนจำเลยในการขอเลื่อนคดี และกำหนดวันนัด เมื่อ ภ. ได้ทราบวันนัดพิจารณาแล้ว จึงถือว่าจำเลยทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโดยชอบแล้ว การที่จำเลยอ้างว่าเข้าใจผิดและไม่มีเจตนาที่จะไม่ไปศาลชั้นต้นในวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๒ ดังกล่าว แต่รอไปในวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๒ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา เพราะเข้าใจว่าศาลให้เลือกไปศาลวันใดวันหนึ่งเพียงนัดเดียวนั้น เป็นเรื่องความเข้าใจผิดโดยมีมูลเหตุมาจากความเข้าใจของจำเลยเอง จึงถือว่าเป็นการจงใจของจำเลยที่จะไม่ไปศาลตามกำหนดนัด ที่จำเลยฎีกาว่า มิได้จงใจขาดนัดพิจารณาจึงฟังไม่ขึ้น กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share