คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องขับไล่จากที่ให้อาศัย โดยไม่ได้ระบุถ้าให้ที่นั้นเช่าจะได้ค่าเช่าเดือนละเท่าไร อันจะเป็นข้อชี้ว่าเป็นคดีมโนสาเร่หรือคดีสามัญนั้น ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องจำเลยหลายคนมาในคดีเดียวกัน มาในชั้นฎีกาแม้จำเลยจะยังยกเป็นข้อต่อสู้อยู่อีกแต่เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าข้อต่อสู้นี้ไม่เป็นข้อแพ้ชนะกัน ศาลฎีกาจะไม่วินิจฉัยก็ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง ๖ เป็นเจ้าของร่วม+โรงถ่านหลังหนึ่งซึ่งขออาศัยปลูกในที่ดินโจทก์ โจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยอยู่ต่อไป ได้บอกกล่าวแล้วจำเลยขัดขืนจึงขอให้ขับไล่
จำเลยที่ ๑,๒,๓,๕ และ ๖ ต่อสู้ว่า ไม่ใช่เจ้าของร่วมโรงพิพาท ต่างได้รับโอนจากเจ้าของเดิมมาคนละฟ้อง จำเลยที่ ๔ ได้รับโอน ๒ ห้องต่างครอบครองแยกกันตามส่วนของตน โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยรวมเป็นสำนวนเดียวกัน กับคัดค้านว่าฟ้องเคลือบคลุมไม่แสดงให้แจ้งชัดว่าค่าเช่าที่ดินจะได้จากที่ให้อาศัยเป็นเงินเท่าไร ไม่สามาราถจะรู้ได้ว่าเป็นคดีมโนสาเร่หรือคดีสามัญ ส่วนจำเลยที่ ๔ ขาดนัดยื่นคำให้การ และขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่
จำเลยที่ ๑,๒,๓,๕ และ ๖ อุทธรณ์โดยผู้พิพากษาศาลชั้นต้นรับรองในปัญหาข้อเท็จจริงได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑,๒,๓,๕ และ ๖ ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า (๑) โจทก์ได้บรรยายฟ้องแจ้งชัดแล้ว การที่โจทก์ไม่ได้ระบุว่าที่อาศัยนั้นถ้าให้เช่าจะได้เดือนละเท่าใด ซึ่งจะเป็นคดีมโนสาเร่หรือคดีสามัญ ยังไม่พอจะถือว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม
(๒) ส่วนที่จำเลยคัดค้านว่าโจทก์จะรวมฟ้องจำเลยเป็นคดีเดียวไม่ได้นั้นไม่จำต้องวินิจฉัย เพราะไม่เป็นเรื่องที่ทำให้เป็นข้อแพ้ชนะกัน พิพากษายืน

Share