คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 870/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่าของโจทก์เป็นป้าผู้ตายเมื่อผู้ตายไม่มีทายาทในอันดับ 1 ถึง 5 และไม่มีผู้รับมรดกแทนที่แล้ว ย่าของโจทก์ผู้เป็นป้าผู้ตายก็ย่อมเป็นทายาท(อันดับ 6) มีสิทธิได้รับมรดกผู้ตาย และเมื่อย่าของโจทก์และบิดาของโจทก์ตายแล้ว โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิได้รับมรดกแทนที่ดังที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1639

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกของพระวิเศษธานี จากจำเลยผู้เป็นภรรยาพระวิเศษ ฯ โดยอ้างว่า พระวิเศษฯไม่มีทายาทอื่นอีกแล้ว ย่าของโจทก์เป็นป้าพระวิเศษฯลฯจึงเป็นทายาทแต่ย่าของโจทก์และบิดาโจทก์ตายแล้ว โจทก์เป็นผู้รับมรดกแทนที่
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ ๓ ปากแล้วงดสืบ วินิจฉัยว่าพระวิเศษฯเป็นเพียงอาว์โจทก์ แต่บิดาโจทก์ไม่ใช่พี่น้องร่วมมารดากับพระวิเศษฯ จึงไม่ใช่ทายาท พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้าพระวิเศษฯไม่มีทายาทในอันดับ ๑ ถึง ๕ และไม่มีผู้รับมรดกแทนที่แล้ว ทายาทอันดับ ๖ ตามป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๖๒๙ ย่อมเป็นทายาท ซึ่งมีสิทธิได้รับมรดกและถ้าทายาทในอันดับ ๖ นี้คนใดตายไปโดยมีผู้สืบสันดาน ๆ ก็ย่อมมีสิทธิได้รับมรดกแทนที่ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๖๓๙ นางจุ้ยเป็นป้าพระวิเศษฯ นางจุ้ยจึงเป็นทายาทอันดับที่ ๖ และโจทก์เป็นบุตรนายชมฯเป็นบุตรนางจุ้ย ทั้งนายชมนางจุ้ยตายแล้ว โจทก์จึงตกอยู่ในฐานะเป็นผู้รับมรดกแทนที่นางจุ้ยนายชม
จึงพิพากษายืน

Share