คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 87/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้รับฝากเงินย่อมมีอำนาจที่จะเอาไปใช้จ่ายได้ และมีหน้าที่ต้องคืนเงินให้ครบดังนั้น เมื่อผู้รับฝากถูกหลอกลวง ผู้รับฝากก็ย่อมเป็นผู้เสียหายและมีอำนาจร้องทุกข์ แต่กลับไม่ร้องทุกข์มอบให้ดำเนินคดีด้วยเหตุนี้ โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง ส่วนผู้ฝากเงินซึ่งมิได้ถูกหลอกลวงนั้น มิใช่ผู้เสียหายจากการกระทำผิดของจำเลย ไม่มีอำนาจร้องทุกข์ ดังนั้น ผู้ว่าคดีศาลแขวงฯ โจทก์ จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 39/2505)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยหลอกลวงให้นางนิตยา อารีรัตน์ ภริยาโจทก์ร่วมให้ส่งเงิน 2,550 บาท ที่โจทก์ร่วมฝากนางนิตยา อารีรัตน์ ไว้โดยกล่าวเท็จว่าจะเอาเงินนี้ไปประกันหญิงนครโสเภณีแทนนางนิตยาอารีรัตน์ นางนิตยาฯ หลงเชื่อจึงส่งมอบเงินดังกล่าวให้ไปคดีนี้โจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายด้วยได้ร้องทุกข์มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแล้ว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341กับให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน 2,550 บาท แก่ผู้เสียหาย

จำเลยให้การปฏิเสธและตัดฟ้องว่าฟ้องเคลือบคลุม

ศาลชั้นต้นว่าฟ้องไม่เคลือบคลุม และวินิจฉัยว่า นางนิตยาฯผู้รับฝากเงินและถูกจำเลยหลอกลวงนั้น เป็นผู้เสียหาย แต่มิได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี ส่วนนายโฮยกุ๋ยไม่ใช่ผู้เสียหาย เพราะจำเลยมิได้หลอกลวงนายโฮยกุ๋ย ๆ จึงไม่มีอำนาจร้องทุกข์ ผู้ว่าคดีจึงไม่มีอำนาจฟ้อง และนายโฮยกุ๋ยโจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้เสียหายย่อมไม่มีอำนาจฟ้องเช่นเดียวกัน พิพากษายกฟ้อง

โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฝ่ายเดียวฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เงินที่นายโฮยกุ๋ยฝากนางนิตยาฯ ไว้นั้นนางนิตยาฯ มีอำนาจที่จะเอาไปใช้จ่ายได้ และมีหน้าที่ต้องคืนเงินให้ครบจำนวน 2,550 บาทแก่นายโฮยกุ๋ยผู้ฝาก การที่นางนิตยาฯจ่ายให้จำเลยไปเพราะจำเลยหลอกลวง ก็ต้องถือว่านางนิตยาฯ เป็นผู้เสียหาย ส่วนนายโฮยกุ๋ยโจทก์ร่วมมิได้ถูกหลอกลวงแต่อย่างใดเลยจึงไม่ใช่เป็นผู้เสียหายจากการกระทำผิดของจำเลย ไม่มีอำนาจร้องทุกข์แต่คดีนี้เป็นคดีที่ยอมความกันได้และไม่ปรากฏว่านางนิตยาผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลย ฉะนั้นผู้ว่าคดีศาลแขวงพระนครใต้โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

พิพากษายืน

Share