แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
สุราของกลางถูกเจ้าพนักงานศุลกากรยึดไว้ในฐานะเป็นของไม่เสียภาษีศุลกากรตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2517 โจทก์เข้ามอบตัวต่อตำรวจเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2517 จนกระทั่งศาลพิพากษาเรื่องโจทก์ปิดอากรแสตมป์สุราไม่ครบถ้วนตาม พระราชบัญญัติสุราฯแล้วโจทก์จึงมาขอสุราของกลางคืนซึ่งก็เป็นเวลาเกิน 30 วันนับแต่วันยึดแล้ว สุราของกลางจึงตกเป็นของแผ่นดินตาม พระราชบัญญัติศุลกากรฯ มาตรา 24 วรรค 2 ไปแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกคืน
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงคดีนี้ฟังยุติได้ว่า สุราของกลางรายนี้ถูกเจ้าพนักงานศุลกากรยึดไว้ในฐานะเป็นของไม่เสียภาษีศุลกากร ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2517 ปรากฏแจ้งชัดตามบันทึกการจับกุมตรวจค้นและแจ้งข้อหาหมาย ป.จ.19, ป.จ.12 และ ป.จ.4 โจทก์เพิ่งเข้ามอบตัวต่อตำรวจเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2517 ต่อมาภายหลังจนกระทั่งศาลพิพากษาเรื่องโจทก์ปิดอากรแสตมป์สุราไม่ครบถ้วนตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 แล้ว โจทก์จึงมาขอสุราของกลางคืน ซึ่งก็เป็นเวลาเกิน 30 วัน นับแต่วันที่เจ้าพนักงานศุลกากรได้ยึดไว้แล้ว สุราของกลางรายนี้จึงตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 24 วรรคสอง ไปแล้ว โจทก์เองได้แถลงรับในรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ 30 เมษายน 2523 ว่า นายนาค ไวยหงษ์ อธิบดีกรมศุลกากรได้สั่งริบสุราที่พิพาทกันในคดีนี้ เพราะไม่มีผู้ใดมาร้องขอคืนภายในกำหนดของกฎหมาย ดังนั้น โจทก์จึงหามีสิทธิฟ้องเรียกคืนไม่
ที่โจทก์ฎีกาว่า ที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่า สุราของกลางคดีนี้เป็นสุราที่ถูกลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร โจทก์ไม่เห็นด้วย เพราะคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 680/2519 ของศาลจังหวัดอุดรธานี ศาลพิพากษาว่าโจทก์มีความผิดฐานปิดอากรแสตมป์สุราไม่ครบถ้วนเท่านั้น มิได้วินิจฉัยว่าสุราของกลางเป็นของผิดกฎหมายและให้ริบแต่อย่างใดนั้น ข้อนี้ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลจังหวัดอุดรธานีพิพากษาว่าจำเลยปิดอากรแสตมป์สุราไม่ครบถ้วนก็เพราะคดีนั้นพนักงานอัยการฟ้องโจทก์ตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 ซึ่งเป็นความผิดต่างกรรมต่างฐานกับความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 จึงไม่มีประเด็นที่ศาลจังหวัดอุดรธานีจะพิพากษามาถึงเรื่องความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2469 ได้ แต่ประเด็นที่พิพาทในคดีนี้เป็นปัญหาตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 โดยตรง ซึ่งมีบทบัญญัติในมาตรา 32 ให้ริบของที่ลักลอบนำเข้าโดยไม่เสียภาษีได้ และจำเลยก็ได้ให้การต่อสู้ไว้ว่า จำเลยมีสิทธิยึดไว้ได้ เพราะเป็นของลักลอบนำเข้ามาโดยไม่เสียภาษี และโจทก์ไม่มาขอคืนภายใน 30 วันนับแต่วันที่ยึด จึงตกเป็นของแผ่นดิน ฉะนั้นศาลอุทธรณ์จึงมีอำนาจวินิจฉัยได้ว่า สุราของกลางรายนี้เป็นของเจ้าหน้าที่ศุลกากรยึดไว้เพราะหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรจริงหรือไม่”
พิพากษายืน