คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 3 ทำสัญญาค้ำประกันให้ไว้กับโจทก์ว่า หากเช็คที่จำเลยที่ 1 นำมาขายลดให้โจทก์เรียกเก็บเงินไม่ได้ จำเลยที่ 3 ยอมร่วมรับผิดใช้เงินให้แก่โจทก์ ต่อมาเช็คที่จำเลยที่ 1 นำมาขายลดให้โจทก์เรียกเก็บเงินไม่ได้ จำเลยที่ 3 ย่อมมีความรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน การที่จำเลยที่ 1 และ ที่ 2 ร่วมกันสั่งจ่ายเช็คฉบับใหม่เพื่อชำระหนี้เงินที่โจทก์เรียกเก็บไม่ได้ จึงเป็นการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้เป็นเงินหาใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ไม่ เมื่อเช็คฉบับใหม่ขึ้นเงินไม่ได้หนี้ที่จำเลยที่ 3 จะต้องรับผิดจึงยังไม่ระงับ จำเลยที่ 3 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ใช้เงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ โดยมีจำเลยที่ ๒ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ ๑ ทำสัญญาขายลดเช็คกับโจทก์ จำเลยที่ ๓ ค้ำประกันความรับผิดของจำเลยที่ ๑ ในฐานะลูกหนี้ร่วมต่อมาธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คที่จำเลยที่ ๑ นำมาขายลดไว้ จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ จึงออกเช็คผ่อนชำระหนี้ตามจำนวนเงินในเช็คที่ขายลดไว้ให้โจทก์รวม ๑๐ ฉบับ ต่อมาธนาคารก็ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คดังกล่าวทั้งหมดอีก ขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้ให้โจทก์
จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ให้การว่า โจทก์ยินยอมให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้ภายในสิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๒๐ โดยให้จำเลยทั้งสองออกเช็ค ๑๐ ฉบับ เป็นหลักฐานแทนหนังสือรับสภาพหนี้ โจทก์จึงนำเช็คมาฟ้องไม่ได้
จำเลยที่ ๓ ให้การว่า เช็ค ๑๐ ฉบับตามฟ้องเป็นเช็คที่ออกจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ออกให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ ไม่ใช่เช็คที่จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ขายลดให้โจทก์แล้วเก็บเงินไม่ได้ จำเลยที่ ๓ ไม่ต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า เช็ค ๑๐ ฉบับเป็นเช็คที่จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ออกให้โจทก์เป็นการชำระหนี้ตามเช็คที่จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ นำมาขายลดให้โจทก์แล้วขึ้นเงินไม่ได้ เป็นการแปลงหนี้ใหม่ จำเลยที่ ๓ ไม่ต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ใช้เงินตามเช็ค และยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ ๓
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๓ ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ในการชำระหนี้ให้โจทก์ด้วย
จำเลยที่ ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในปัญหาว่าจำเลยที่ ๓ จะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ ใช้เงิน ๒๓๑,๙๘๐ บาทแก่โจทก์หรือไม่ เห็นว่าตามสัญญาค้ำประกันที่จำเลยที่ ๓ ทำไว้กับโจทก์ จำเลยที่ ๓ ยอมรับผิดใช้เงินแก่โจทก์หากตั๋วเงินที่จำเลยที่ ๑ นำมาขายลดให้โจทก์เรียกเก็บเงินไม่ได้ เมื่อปรากฏว่าเช็ค ๗ ฉบับรวมเงิน ๒๓๑,๙๘๐ บาท เป็นตั๋วเงินที่จำเลยที่ ๑ นำมาขายลดให้โจทก์แล้วเรียกเก็บเงินไม่ได้ จำเลยที่ ๓ ย่อมมีความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันในอันที่จะต้องใช้เงินจำนวนนี้แก่โจทก์ การที่จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันสั่งจ่ายเช็ค ๑๐ ฉบับจำนวนเงิน ๒๓๑,๙๘๐ บาทชำระหนี้เงินที่โจทก์เรียกเก็บไม่ได้ จึงเป็นการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระเป็นเงิน หาใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ดังข้อฎีกาของจำเลยที่ ๓ ไม่ เมื่อเช็ค ๑๐ ฉบับขึ้นเงินไม่ได้ หนี้เงินจำนวน ๒๓๑,๙๘๐ บาท ซึ่งจำเลยที่ ๓ จะต้องรับผิดจึงยังไม่ระงับ จำเลยที่ ๓ ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ ใช้เงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์ ที่จำเลยที่ ๓ ฎีกาว่าโจทก์สละสิทธิเรียกร้องเอากับจำเลยที่ ๓ ก็ดี เช็ค ๗ ฉบับขาดอายุความก็ดี จำเลยที่ ๓ มิได้ยกขึ้นเถียงไว้ในคำให้การจึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากันมาในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน

Share