คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2540

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

บันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยระบุว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะไปจดทะเบียนหย่าในวันที่ระบุ หลังจากที่ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงทำสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาลที่โจทก์ฟ้องหย่าจำเลยไว้ก่อนแล้ว ถือว่าข้อตกลงนี้มีเงื่อนไขบังคับก่อน ดังนั้นเมื่อยังมิได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันที่ศาลซึ่งมิใช่เป็นเพราะจำเลยไม่ปฏิบัติตาม ข้อตกลงเรื่องจดทะเบียนการหย่าจึงยังไม่มีผลใช้บังคับ โจทก์จะบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนการหย่ากับโจทก์ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2537 โจทก์จำเลยทำหนังสือสัญญาบันทึกข้อตกลงกันว่า โจทก์จำเลยจะไปจดทะเบียนหย่า ณ สำนักงานเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร หลังจากที่โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางแล้ว แต่ปรากฏว่าจำเลยมิได้ไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางจำเลยจึงตกเป็นฝ่ายผิดสัญญาขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนหย่าจากการเป็นสามีภรรยากับโจทก์และปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความฉบับลงวันที่24 พฤษภาคม 2537 หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า หนังสือสัญญาบันทึกข้อตกลงท้ายคำฟ้องมิใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ เพราะทั้งสองฝ่ายมิได้ประสงค์ให้ระงับข้อพิพาทที่มีอยู่แล้วหรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ โจทก์ได้ฟ้องจำเลยที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางตามคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 450/2537 เรื่องขอหย่าและใช้อำนาจปกครองบุตร คดีดังกล่าวยังไม่มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันแต่อย่างใด
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่า จำเลยต้องไปจดทะเบียนการหย่ากับโจทก์ตามข้อตกลงในหนังสือสัญญาบันทึกข้อตกลงเอกสารหมาย จ.1 หรือไม่ โจทก์ฎีกาว่า จำเลยเป็นฝ่ายไม่ทำตามข้อตกลงในหนังสือสัญญาบันทึกข้อตกลงเอกสารหมาย จ.1ในเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดู โดยจำเลยเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูเพิ่มขึ้นจากที่ตกลงไว้ในหนังสือสัญญาบันทึกข้อตกลงดังกล่าวจำเลยจึงเป็นฝ่ายปฏิบัติผิดข้อตกลง โดยโจทก์มิได้เป็นฝ่ายปฏิบัติผิดข้อตกลงจึงเป็นกรณีที่ต้องบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามข้อตกลงในหนังสือสัญญาบันทึกข้อตกลงเอกสารหมาย จ.1 คือ ไปจดทะเบียนหย่ากับโจทก์ตามฟ้อง เห็นว่า ในหนังสือสัญญาบันทึกข้อตกลงเอกสารหมาย จ.1 ข้อ 1 ระบุว่า “ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงตกลงที่จะไปดำเนินการจดทะเบียนหย่าในวันที่ ….ณสำนักงานเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร หลังจากที่ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงดำเนินการทำสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางแล้ว” ซึ่งถือว่าข้อตกลงนี้มีเงื่อนไขบังคับก่อนดังนั้น เมื่อเงื่อนไขดังกล่าวยังไม่สำเร็จเพราะยังมิได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางตามที่ได้ตกลงไว้เช่นนี้ แม้จะมีการอ้างว่าที่ยังไม่ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเป็นเพราะจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดูก็ตาม แต่เมื่อยังรับฟังไม่ได้ว่าเหตุที่ยังไม่มีทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเป็นเพราะจำเลยเป็นฝ่ายไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในหนังสือสัญญาบันทึกข้อตกลงเอกสารหมาย จ.1 แล้ว กรณีจะอ้างว่าจำเลยเป็นฝ่ายไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในหนังสือสัญญาบันทึกข้อตกลงดังกล่าวหาได้ไม่ ฉะนั้น ข้อตกลงเรื่องจดทะเบียนการหย่าในหนังสือสัญญาบันทึกข้อตกลงเอกสารหมาย จ.1 จึงยังไม่มีผลใช้บังคับเมื่อฟังได้เช่นนี้โจทก์จะบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนการหย่ากับโจทก์ยังไม่ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้นชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share