คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8649/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ที่ 1 ในอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินฝากประเภทฝากประจำของธนาคารออมสิน แต่ต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 10.75 ต่อปี ซึ่งหมายความว่า ต้องคิดดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยที่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงในแต่ละช่วงตลอดเวลา หาใช่คิดดอกเบี้ยในอัตราเดียวตลอดไปจนครบ 12 เดือนไม่ เพราะมิฉะนั้นแล้วหากในช่วงเวลาดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยขึ้นลงก็จะมีการได้เปรียบเสียเปรียบกันของคู่ความทั้งสองฝ่ายในส่วนต่างของดอกเบี้ยในอัตราที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ทั้งสองฟ้องเรียกค่าทดแทนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเวนคืน ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงิน 2,250,000 บาท แก่โจทก์ที่ 1 พร้อมดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินฝากประเภทฝากประจำของธนาคารออมสินนับถัดจากวันฟ้องต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 10.75 ต่อปี และให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้ค่าขึ้นศาลในศาลชั้นต้นแทนโจทก์ที่ 1 ตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ที่ 1 ชนะคดีในชั้นฎีกา นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ จำเลยทั้งสี่นำเงินมาวางศาลเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว
โจทก์ที่ 1 ยื่นคำร้องว่า จำเลยทั้งสี่ชำระหนี้ไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษาศาลฎีกา
จำเลยทั้งสี่ยื่นคำคัดค้านว่า ได้ชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนตามคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ตามปกติดอกเบี้ยเงินฝากประจำที่คู่ความแสดงต่อศาลในสำนวนประเภท 12 เดือน เป็นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของธนาคารออมสิน การคิดดอกเบี้ยตามคำพิพากษาศาลฎีกาจะต้องดูว่า ณ วันที่ 6 เมษายน 2538 (ถัดจากวันฟ้อง) อัตราดอกเบี้ยสูงสุดของธนาคารออมสินเท่าไร แล้วคิดดอกเบี้ยในอัตราดังกล่าวจนครบ 12 เดือน ซึ่งตรงตามตารางการคิดดอกเบี้ยของจำเลยทั้งสี่ การคิดดอกเบี้ยของจำเลยทั้งสี่ชอบแล้ว ให้ยกคำร้องของโจทก์ที่ 1 ค่าคำร้องให้เป็นพับ
โจทก์ที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาคณะคดีปกครองวินิจฉัยว่า ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ที่ 1 มีว่า ที่ศาลล่างทั้งสองคิดดอกเบี้ยในคดีนี้โดยใช้อัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินฝากประเภทฝากประจำของธนาคารออมสิน ในวันเริ่มต้นคิดดอกเบี้ยจนครบ 12 เดือน นั้นชอบหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ที่ 1 ในอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินฝากประเภทฝากประจำของธนาคารออมสิน แต่ต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 10.75 ต่อปี ซึ่งหมายความว่า ต้องคิดดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยที่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงในแต่ละช่วงตลอดเวลา หาใช่คิดดอกเบี้ยในอัตราเดียวจนครบ 12 เดือน ไม่ เพราะมิฉะนั้นแล้ว หากในช่วงเวลาดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยขึ้นลงก็จะมีการได้เปรียบเสียเปรียบกันของคู่ความทั้งสองฝ่ายในส่วนต่างของดอกเบี้ยในอัตราที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ดังนี้ ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องของโจทก์ที่ 1 มานั้นเป็นการไม่ชอบ ฎีกาของโจทก์ที่ 1 ฟังขึ้น
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องของโจทก์ที่ 1 ใหม่ โดยให้คิดดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินฝากประเภทฝากประจำ (ซึ่งไม่ใช่เงินฝากประจำรายเดือนยกเว้นภาษี) ของธนาคารออมสินโดยปรับเปลี่ยนไปตามประกาศของธนาคารออมสินซึ่งมีผลใช้บังคับในแค่ช่วงที่คิดดอกเบี้ยจนกว่าจะชำระเสร็จ แต่ต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 10.75 ต่อปี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share