คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยืมเงินโจทก์ร่วมโจทก์ร่วมเอาเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งโจทก์ร่วมเป็นผู้จัดการให้จำเลยจึงออกเช็คให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้นไว้เพื่อชำระหนี้ โจทก์ร่วมได้นำเช็คเข้าบัญชีของโจทก์ร่วมเพื่อเรียกเก็บเงินแต่นำเช็คเข้าบัญชีไม่ได้ ดังนี้ ถือว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้นไม่ได้สลักหลังเช็คให้โจทก์ร่วมและยังเป็นผู้ทรงเช็คอยู่ ไม่ใช่โจทก์ร่วมเป็นผู้ทรงห้างหุ้นส่วนจำกัด นั้นจึงเป็นผู้เสียหาย มีสิทธิร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับจำเลยและเมื่อโจทก์ร่วมในฐานะส่วนตัวไม่ใช่ผู้ทรงเช็ค จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีสิทธิจะเข้าเป็นโจทก์ร่วม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2508 เวลากลางวันจำเลยบังอาจกระทำผิดกฎหมาย กล่าวคือ จำเลยออกเช็คของธนาคารไทยทนุ จำกัด หมายเลขที่ เอ. 1183039 สั่งจ่ายเงิน 3,000 บาท ให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงเลื่อยจักรคงแสง โดยนายธีรวัฒน์ หาญทวีพานิชย์ผู้จัดการ เพื่อเป็นการชำระหนี้โดยให้ไปรับเงินในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2508 เป็นต้นไป วันที่ 18 พฤศจิกายน 2508 นายธีรวัฒน์หาญทวีพานิชย์ นำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีของนายธีรวัฒน์หาญทวีพานิชย์ ที่ธนาคารแห่งกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาบางกระบือ เพื่อให้ธนาคารแห่งกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาบางกระบือ เรียกเก็บเงินจากธนาคารไทยทนุ จำกัด ๆ ได้ปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะผู้สั่งจ่ายระงับจ่าย ทั้งนี้โดยจำเลยออกเช็คด้วยเจตนาทุจริตที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค เหตุเกิดที่ตำบลบางซื่อ อำเภอดุสิต และตำบลวังบูรพา อำเภอพระนคร จังหวัดพระนคร วันที่ 23 พฤศจิกายน 2508 ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานเอาคดีขึ้นว่ากล่าวตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

นายธีรวัฒน์ หาญทวีพานิชย์ อ้างว่าเป็นผู้เสียหายร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลสั่งอนุญาต

จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดดังโจทก์ฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงเลื่อยจักรคงแสง โดยนายธีรวัฒน์หาญทวีพานิชย์ ผู้จัดการเพื่อชำระหนี้ เช็คจึงเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงเลื่อยจักรคงแสงซึ่งเป็นผู้ทรงหาใช่เป็นของนายธีรวัฒน์ หาญทวีพานิชย์เป็นผู้ทรงโดยส่วนตัวไม่ นายธีรวัฒน์ หาญทวีพานิชย์ร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ไม่มีข้อความแสดงว่าได้ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในฐานะผู้จัดการหรือผู้แทนอื่น ๆ ของนิติบุคคลห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงเลื่อยจักรคงแสง ตามคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมเป็นการกระทำในฐานะส่วนตัวของนายธีรวัฒน์ หาญทวีพานิชย์ ๆ ในฐานะส่วนตัวจึงไม่ใช่ผู้เสียหายในคดี ไม่มีอำนาจร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ และไม่มีอำนาจฟ้องอุทธรณ์ ปัญหาตามฟ้องอุทธรณ์ข้ออื่นไม่จำต้องวินิจฉัย พิพากษายืนในผลของคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ร่วมฎีกาว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงเลื่อยจักรคงแสงได้สลักหลังเช็คใช้หนี้โจทก์ร่วม โดยที่โจทก์ร่วมออกเงินทดรองเงินยืมให้จำเลย โจทก์ร่วมได้นำเช็คไปเข้าบัญชีส่วนตัวของโจทก์ร่วมที่ธนาคาร เพื่อเรียกเก็บเงินจากจำเลย โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายเป็นผู้ทรงเช็ค ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงเลื่อยจักรคงแสงในฐานะผู้ทรงเช็คคนแรก เมื่อสลักหลังใช้หนี้ให้โจทก์ร่วมและโจทก์ร่วมรับเงินไม่ได้ตามเช็ค ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงเลื่อยจักรคงแสงก็เป็นผู้เสียหายที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วม ดังนั้น เมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงเลื่อยจักรคงแสงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับจำเลยโจทก์ร่วมในฐานะผู้ทรงเช็คและได้รับความเสียหายจึงมีสิทธิขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้ จึงขอให้พิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องโจทก์

ศาลฎีกาตรวจสำนวนฟังทนายโจทก์ร่วมแถลงการณ์ด้วยวาจาและประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่า ตามฎีกาของโจทก์ร่วมรับว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงเลื่อยจักรคงแสงเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ และได้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับจำเลย และโจทก์ร่วมเป็นผู้ทรงเช็คโดยห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงเลื่อยจักรคงแสงสลักหลังเช็คให้ โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายในฐานะเป็นผู้ทรงเช็คนำเช็คไปขึ้นเงินไม่ได้ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยจึงมีว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้ทรงเช็คโดยการสลักหลังจริงหรือไม่และโจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายในคดีนี้หรือไม่

ข้อเท็จจริงได้ความตามคำเบิกความของโจทก์ร่วมว่า วันที่ 18 ตุลาคม 2508 จำเลยไปพบขอยืมเงินสามพันบาทไปเสียภาษี โจทก์ร่วมเปิดลิ้นชักเห็นมีเงินของโรงเลื่อยอยู่ จึงมอบให้จำเลย ๆ ออกเช็คให้ เช็คลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2508 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2508 โจทก์ร่วมนำเช็คเข้าบัญชีของโจทก์ร่วม รุ่งขึ้นธนาคารโทรศัพท์แจ้งว่าเช็คนำเข้าบัญชีไม่ได้ เพราะเจ้าของเช็คอายัดเช็ค

ศาลฎีกาพิเคราะห์ข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้วเห็นว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงเลื่อยจักรคงแสง ไม่ได้สลักหลังเช็คให้โจทก์ร่วม และห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงเลื่อยจักรคงแสงยังเป็นผู้ทรง ไม่ใช่โจทก์ร่วมเป็นผู้ทรง เมื่อโจทก์ร่วมไม่ใช่เป็นผู้ทรงเช็ค จึงไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีนี้ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงเลื่อยจักรคงแสงเป็นผู้เสียหาย และได้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับจำเลย โจทก์ร่วมในฐานะส่วนตัว ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดี จึงไม่มีสิทธิจะเข้าเป็นโจทก์ร่วม ฎีกาของโจทก์ร่วมฟังไม่ขึ้น ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีมาชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share