คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853-854/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แผลสาหัส บาดแผลที่ทำให้แขนขาของผู้ถูกทำร้ายการไม่ได้โดยปกติและ+กำไม่ได้เป็นเวลา+เดือนเศษ และไม่ปรากฎ+ผู้ถูกทำร้ายได้รับทุกข์เวทนา+เกินกว่า 20 วันแล้วไม่เรียกว่าเป็นบาดแผล+สาหัสตาม ม.256 ข้อ 7 และ 8 บาดแผลที่ทำให้พิการแต่ไม่ปรากฎว่าจะพิการไปตลอดชีวิตนั้นไม่เป็นบาดแผลสาหัส ประมวลวิธีพิจารณาอาญา + ฎีกาอุทธรณ์ ปัญหาข้อกฎหมาย ปัญหาที่ว่าบาดแผลของผู้ถูกทำร้ายเป็นบาดแผลสาหัสหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย คดีซึ่งต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงนั้น ศาลฎีกามีอำนาจฟ้องข้อเท็จจริงเอาเองได้ในข้อที่ศาลอุทธรณ์มิได้ชี้ขาดไว้

ย่อยาว

คดีนี้ทางพิจารณาได้ความว่าในงานก่อพระทรายที่วัดตึก นายยู่เหงี่ยน นายมณี ฝ่ายหนึ่ง นายชลอ นายเสริมฝ่ายหนึ่งได้วิวาทต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันแลกัน มีบาดเจ็บด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย อัยยการจึงฟ้องนายยู่เหงี่ยนเป็นจำเลยสำนวนหนึ่งและนายฟุกบิดานายยู่เหงี่ยนเป็นโจทก์ฟ้องนายชลอ นายเสริมอีกสำนวนหนึ่ง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าอยู่เหงี่ยนมีความผิดตามกฎหมายอาญา ม.๒๕๖ ให้จำคุกไว้ ๒ ปี นายชลอมีผิดตาม ม.๓๓๘ ข้อ ๓ ปรับ ๔๐ บาท นายเสริมไม่ผิดให้ปล่อยตัวไป
ศาลฎีกาตัดสินว่าปัญหาที่นายยู่เหงี่ยนฎีกาขึ้นมาว่าบาดแผลที่นายยู่เหงี่ยนแทงนายเสริมนั้นจะเป็นสาหัสหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีการับวินิจฉัยได้ และเห็นว่าบาดแผลของนายเสริมนั้นยังไม่ทำให้พิการไปจนตลอดชีวิตเป็นเพียงแต่ปรากฎว่ามือกำไม่ได้และแขนขาทำการไม่ได้ปกติเพียง ๓ เดือนเศษเท่านั้น อนึ่งไม่ปรากฎว่านายเสริมต้องทนทุกขเวทนาเพราะบาดแผลนั้นเกินกว่า ๒๐ วัน ฉะนั้นจึงเรียกว่าเป็นบาดแผลสาหัสมิได้ ความผิดของนายยู่เหงี่ยนเข้าเพียง ม.๒๕๔ ให้จำคุกไว้ ๖ เดือนปรับ ๑๐๐ บาทโทษจำให้ยกนอกนั้นยืนตามศาลอุทธรณ์

Share