แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หลักฐานการจดทะเบียนเป็นหลักฐานสำคัญเพราะสัญญาขายฝากจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว เมื่อปรากฏตามเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและหน้าโฉนดว่า การขายฝากมีกำหนดเวลา 4 เดือน แม้ตัวสัญญาขายฝากจะมิได้กรอกกำหนดเวลาลงไป ก็ฟังได้ว่าการขายฝากมีกำหนดเวลา โจทก์ขอไถ่เมื่อพ้นกำหนดแล้วจึงไถ่ไม่ได้
เมื่อศาลรับฟังพยานเอกสารที่จำเลยอ้าง คือเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม โฉนดที่ดิน เชื่อว่าคู่สัญญากำหนดเวลาขายฝากไว้มีกำหนดเวลา 4 เดือน จึงมิใช่เป็นการนำพยานบุคคลมาสืบเพิ่มเติมข้อความในเอกสารสัญญาขายฝาก และไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ขายฝากที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๔๙๙๔ ไว้กับจำเลยในราคา ๔๕,๐๐๐ บาท โดยไม่มีกำหนดเวลาไถ่คืน ต่อมาเดือนกันยายน ๒๕๑๗ โจทก์ขอไถ่ที่ดินดังกล่าวคืน จำเลยไม่ยอมให้ไถ่ ขอให้บังคับให้จำเลยรับไถ่ที่ดิน ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย และห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทอีกต่อไป
จำเลยให้การว่า การขายฝากที่พิพาทมีกำหนดเวลาไถ่ ๔ เดือน โจทก์ขอไถ่ เมื่อเลย ๔ เดือนแล้ว จึงไม่มีสิทธิไถ่ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษากลับให้จำเลยรับไถ่ที่พิพาทจากโจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๔ โจทก์ได้เอาที่พิพาทขายฝากกับจำเลยครั้งหนึ่งแล้วในราคา ๔๐,๘๐๐ บาท มีกำหนดเวลาไถ่ภายใน ๑ ปี ครบ ๑ ปี แล้วโจทก์ไถ่ที่พิพาท แต่ในวันเดียวกันนั้นก็กลับขายฝากที่พิพาทไว้กับจำเลยอีกในราคา ๔๕,๐๐๐ บาท ปรากฏตามหนังสือสัญญาขายฝากที่ดินลงวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๑๕ เอกสารหมาย จ.๒ ได้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมแล้ว ตามเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเอกสารหมาย ล.๒ หนังสือสัญญาขายฝากเอกสารหมาย จ.๒ เป็นแบบพิมพ์ของสำนักงานที่ดินสัญญาข้อ ๑ ระบุว่า “ผู้ขายฝากตกลงขายฝากที่ดินแปลงที่กล่าวข้างบนนี้แก่ผู้รับซื้อฝากมีกำหนด…ปี” กำหนดเวลาขายฝากตามสัญญาข้อนี้เว้นว่างไว้ไม่ได้กรอกข้อความ แต่ตามเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมระบุว่า ขายฝากมีกำหนด ๔ เดือน และตามสารบัญจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในโฉนดที่ ๑๔๙๙๔ เอกสาร ล.๑ ระบุว่าขายฝากมีกำหนด ๔ เดือนเช่นกันและวินิจฉัยในประเด็นที่ว่าสัญญารายนี้มีกำหนดเวลาหรือไม่ว่า หลักฐานการจดทะเบียนเป็นหลักฐานสำคัญ เพราะสัญญาขายฝากจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว เมื่อปรากฏตามเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมหน้าโฉนดว่า การขายฝากรายนี้มีกำหนดเวลา ๔ เดือน แม้ตัวสัญญาขายฝากจะมิได้กรอกกำหนดเวลาลงไป ก็ฟังได้ว่าการขายฝากรายนี้มีกำหนดเวลา โจทก์ขอไถ่เมื่อพ้นกำหนดแล้วจึงไถ่ไม่ได้ ส่วนประเด็นที่ว่าจำเลยนำพยานบุคคลมาสืบเพิ่มเติมข้อความในเอกสารสัญญาขายฝาก เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๙๔ หรือไม่นั้นว่า ข้อนี้เห็นว่าเมื่อศาลรับฟังพยานเอกสารที่จำเลยอ้าง คือเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม โฉนดที่ดินเชื่อว่าคู่สัญญากำหนดเวลาขายฝากไว้มีกำหนด ๔ เดือน จึงไม่ใช่เป็นการนำสืบเพิ่มเติมข้อความในเอกสารดังกล่าว
พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์