คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 เป็นผู้ติดต่อขายและมาตรวจนับเงินจากผู้ที่ล่อซื้อกับเป็นผู้นำเฮโรอีนของกลางมาส่งให้สายลับต่อหน้าเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งซุ่มแอบดูอยู่เป็นจำนวนมาก จำเลยที่ 1 ถูกจับได้ในขณะนั้น เหตุที่จำเลยที่ 1 ต้องรับสารภาพในชั้นจับกุมและสอบสวนเพราะจำนนต่อพยานหลักฐาน ไม่สมควรลดโทษให้
ตำรวจไม่ได้แต่งเครื่องแบบเรียกให้จำเลยที่ 2 หยุดรถจักรยานยนต์ ตำรวจคนหนึ่งเข้ามายึดรถ อีกคนหนึ่งเข้ามาล็อคคอ จำเลยที่ 2 ตกใจคิดว่าถูกชิงรถจึงดิ้น ต่อมาทราบว่าเป็นตำรวจจึงหยุดและยอมให้จับกุม ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2มีเจตนาต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงาน.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำเลยที่ 2 ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้าย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 15, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138,83, 91, และขอให้ริบเฮโรอีนของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522 มาตรา 66 วรรคสอง ให้จำคุกตลอดชีวิต และจำเลยที่ 2มีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง อีกกระทงหนึ่ง จำคุก 1 ปีแต่คงลงโทษจำเลยที่ 2 จำคุกตลอดชีวิต ตามมาตรา 91 ที่แก้ไข้ใหม่และริบเฮโรอีนของกลาง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายให้จำคุกตลอดชีวิต คำรับสารภาพชั้นจับกุมสอบสวนและการนำสืบเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุก37 ปี 6 เดือน ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “สำหรับฎีกาของโจทก์ที่ว่า การที่ศาลอุทธรณ์ลดโทษให้จำเลยที่ 1 เป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่าคดีนี้แม้ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน จำเลยที่ 1 จะรับสารภาพ แต่ตามพฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 ปรากฎว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ติดต่อขายและมาตรวจนับเงินจากผู้ที่ล่อซื้อกับเป็นผู้นำเฮโรอีนของกลางมาส่งให้สายลับต่อหน้าเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งซุ่มแอบดูอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งจับจำเลยที่ 1 ได้ในขณะนั้นเหตุที่จำเลยที่ 1 ต้องรับสารภาพนั้นก็เพราะจำนนต่อพยานหลักฐานมากกว่า จึงไม่สมควรลดโทษให้ ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังขี้น
สำหรับฎีกาโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 นั้น ทางพิจารณาได้ความเพียงว่าจำเลยที่ 2 ขับรถโดยมีจำเลยที่ 1 นั่งซ้อนท้ายมาลงในที่เกิดเหตุเท่านั้น ข้อเท็จจริงไม่ปรากฎว่า จำเลยที่ 2 ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเฮโรอีนของกลางนี้แต่อย่างใด ทั้งยังได้ความจากจ่าสิบตำรวจสมานพยานโจทก์เองว่า เมื่อจำเลยที่ 1 ลงจากรถแล้ว จำเลยที่ 2 คงขับรถจักรยานยนต์เลยไปซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่ส่อแสดงไปในทางที่ว่าจำเลยที่ 2 น่าจะไม่ได้รู้เห็นในการที่จำเลยที่ 1 นำเฮโรอีนของกลางมาจำหน่ายด้วย จำเลยที่ 2 ก็ให้การปฏิเสธมาตั้งแต่ต้นและนำสืบต่อสู้ว่าจำเลยที่ 1 เพียงขออาศัยนั่งซ้อนท้ายรถไปด้วยเท่านั้นข้อเท็จจริงจึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่นั้น ได้ความตามคำของร้อยตำรวจรีเดชา บุตรน้ำเพชรว่า พยานแสดงตัวเป็นตำรวจ และเข้าล็อคแขนจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 สบัดหลุด พยานกับพวกไล่ตามเกิดการต่อสู้กันที่พยานว่าได้แสดงตัวเป็นตำรวจก่อนเข้าจับกุมจำเลยที่ 2 ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า พยานได้แสดงบัตรประจำตัวหรือแสดงโดยวิธีการอย่างใดจำเลยที่ 2 อ้างว่าก่อนที่จะมีคนล็อคคอจำเลยที่ 2 นั้น บุคคลดังกล่าวยังไม่ได้บอกว่าเป็นใคร จำเลยที่ 2 เบิกความว่า วันเกิดเหตุผู้จัดการโรงเรียนให้พยานมาสืบราคาเครื่องกีฬาที่ร้านไทยวัฒนาพานิชขณะขับรถจะกลับโรงเรียนพบจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ขออาศัยนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปด้วย เมื่อส่งจำเลยที่ 1 ลงตรงที่จอดรถแล้วก็เลี้ยวรถจะกลับไปถึงประตูจะออกถนนใหญ่ มีชายหลายคนเรียกให้หยุดชายคนหนึ่งเข้ามายึดรถ อีกคนหนึ่งเข้ามาล็อคคือ จำเลยที่ 2 ตกใจคิดว่าถูกชิงรถจึงดิ้น ต่อมาทราบว่าเป็นตำรวจจึงหยุดและยอมให้จับกุม ซึ่งตรงกับคำของร้อยตำรวจรีเดชาว่าจำเลยเพียงสบัดแขนแล้ววิ่งหนี เมื่อตำรวจไม่ได้แต่งเครื่องแบบก็เป็นการยากที่จำเลยที่ 2จะทราบว่าผู้ที่เข้ามายึดรถและล็อคคอเป็นใคร พฤติการณ์ดังกล่าวอาจทำให้จำเลยที่ 2 เข้าใจผิดไปได้ การกระทำของจำเลยที่ 2 ยังถือไม่ได้ว่ามีเจตนาจะต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้วางโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ตลดดชีวิต โดยไม่ลดโทษให้ นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์”.

Share