แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ป.อ. มาตรา 91(2) เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการลงโทษจำคุกจำเลยในกรณีจำเลยกระทำความผิดหลายกรรม แต่ถูกฟ้องเป็นคดีเดียวหรือกรณีจำเลยถูกฟ้องหลายคดีแต่เป็นคดีที่เกี่ยวพันกันจนศาลได้มีคำสั่งให้รวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกัน และรวมถึงคดีที่เกี่ยวพันกันซึ่งโจทก์กลับแยกฟ้องเป็นหลายคดีและไม่มีการรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกัน เมื่อโจทก์จำเลยเป็นคู่ความเดียวกัน แต่ปรากฏว่า ฐานความผิดตามที่ฟ้องในคดีที่สี่และพยานหลักฐานที่จะต้องนำสืบแตกต่างกับสามคดีแรก และความผิดตามที่ฟ้องในคดีที่หกนั้นเป็นความผิดที่จำเลยได้กระทำขึ้นในบริษัท ค. ซึ่งไม่ใช่บริษัทที่จำเลยได้กระทำความผิดในคดีอื่น ๆ คดีที่สี่และที่หกจึงเป็นคดีที่ไม่เกี่ยวพันกัน ไม่อาจฟ้องจำเลยเป็นคดีเดียวกันหรือรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้คดีจึงไม่อยู่ในบังคับของ ป.อ. มาตรา 91(2).
ย่อยาว
คดีทั้งสามสำนวนศาลฎีการวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกัน
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7008/2533พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 20 ปี นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 837/2531, 7222/2532, 8729/2532 และ 7009/2533 ของศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7009/2533 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 7 ปี 6 เดือน นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 837/2531,7222/2532, 8729/2532 ของศาลชั้นต้น เมื่อลงโทษจำคุกแล้วต้องไม่เกิน 20 ปี และนับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7008/2533 ของศาลชั้นต้น และศาลชั้นต้นในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7024/2533 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 9 ปี นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 837/2531,7222/2532, 8729/2532, 7009/2533 และ 7008/2533 ของศาลชั้นต้น
จำเลยยื่นคำร้องในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7008/2533, 7009/2533และ 7024/2533 ว่า จำเลยถูกพนักงานอัยการ กรมอัยการฟ้องและถูกศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกในคดีต่าง ๆ รวม 6 คดี คือ
1. คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 837/2531 จำคุก 10 ปี
2. คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7222/2532 จำคุก 2 ปี 6 เดือน นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 837/2531
3. คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 8729/2532 จำคุก 1 ปี นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 837/2531 และ 7222/2532
4. คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7008/2533 จำคุก 20 ปี นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 837/2531, 7222/2532, 8729/2532 และ7009/2533
5. คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7009/2533 จำคุก 7 ปี 6 เดือน นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 837/2531, 7222/2532 และ 8729/2532เมื่อลงโทษจำคุกทั้งสิ้นแล้วต้องไม่เกิน 20 ปี และนับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7008/2533 ของศาลชั้นต้น
6. คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7024/2533 จำคุก 9 ปี นับโทษต่อจากคดีทั้งห้าดังกล่าวข้างต้น
การที่ศาลชั้นต้นนับโทษจำคุกจำเลยติดต่อกันเกิน 20 ปี ขัดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) จึงขอให้นับโทษจำคุกจำเลยติดต่อกันทั้ง 6 คดีแล้วไม่เกิน 20 ปี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องทั้งสามสำนวน
นายสุพจน์ เดชสกุลธร จำเลยทั้งสามสำนวนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งสามสำนวน
นายสุพจน์ เดชสกุลธร จำเลยทั้งสามสำนวนฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยถูกศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกรวม 6 คดี ได้แก่คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 837/2531, 7222/2532, 8729/2532, 7008/2533, 7009/2533และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7024/2533 เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7009/2533 ลงโทษจำคุกจำเลย 7 ปี 6 เดือน ให้นับโทษต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 837/2531, 7222/2532,8729/2532 เมื่อรวมโทษจำคุกทั้งสิ้นแล้วต้องไม่เกิน 20 ปี และให้นับโทษต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 7244/2533 ซึ่งได้แก่คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7008/2533 ของศาลชั้นต้น ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7024/2533 ลงโทษจำคุกจำเลย9 ปี ศาลชั้นต้นก็ให้นับโทษต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 837/2531, 7222/2532, 8729/2532 คดีอาญาหมายเลขดำที่7243/2533 และที่ 7244/2533 (คดีอาญาหมายเลขดำทั้งสองคดีคือคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7009/2533 และ 7008/2533 ตามลำดับ) ดังนั้นตามฎีกาที่จำเลยฎีกาว่า จะนับโทษจำคุกจำเลยติดต่อกันทั้ง 6 คดีเกิน20 ปี ได้หรือไม่นั้น ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้สั่งให้นับโทษจำเลยติดต่อกัน 4 คดี คือ คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 837/2531, 7222/2532,8729/2532 และ 7009/2533 รวมโทษจำคุกทั้งสิ้นแล้วไม่เกิน 20 ปีรายละเอียดปรากฏตามสำเนาคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7009/2533ของศาลชั้นต้น เอกสารท้ายคำร้องของจำเลยลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2533ไม่ปรากฏว่าโจทก์จำเลยได้อุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว คำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7009/2533 ถึงที่สุด เมื่อนับโทษทั้ง 4 คดีดังกล่าว จึงต้องนับโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 20 ปีศาลฎีกาไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาการนับโทษใน 4 คดีดังกล่าวอีก คงมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่า จะนับโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่7008/2533, 7024/2533 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4 คดีดังกล่าวข้างต้นติดต่อกันเกิน 20 ปี ได้หรือไม่
ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่วินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91(2) ที่บัญญัติให้ศาลลงโทษผู้กระทำความผิดทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป แต่กรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี แต่ไม่เกิน 10 ปี โทษจำคุกทั้งสิ้นรวมกันต้องไม่เกิน 20 ปี นั้น เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการลงโทษจำคุกจำเลยในกรณีที่จำเลยกระทำความผิดหลายกรรมแต่ถูกฟ้องเป็นคดีเดียว หรือในกรณีที่จำเลยถูกฟ้องหลายคดีแต่เป็นคดีที่เกี่ยวพันกัน จนศาลได้มีคำสั่งให้รวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกัน ส่วนคดีที่เกี่ยวพันกันซึ่งโจทก์ควรจะฟ้องจำเลยเป็นคดีเดียวกันหรือควรจะมีการรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกัน แต่โจทก์กลับแยกฟ้องเป็นหลายคดีและไม่มีการรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกัน ก็จะต้องอยู่ภายใต้บังคับของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) เช่นเดียวกัน ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4527/2530 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี โจทก์ จ่าสิบเอกเจริญชัย พราหมณ์น้อย จำเลย ตามที่จำเลยกล่าวอ้างในฎีกา แต่ข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวเป็นเรื่องที่คดีทั้งสองมีโจทก์จำเลยเป็นคู่ความเดียวกัน จำเลยกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการทุจริตเงินบำนาญพิเศษจากส่วนราชการเดียวกัน พยานหลักฐานเกือบทั้งหมดเป็นชุดเดียวกันจึงเป็นคดีที่เกี่ยวพันกันซึ่งโจทก์น่าจะฟ้องเป็นคดีเดียวกันหรือขอให้ศาลรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้ แต่คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7008/2533 พนักงานอัยการฟ้องจำเลยในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ส่วนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 837/2531 และ 8729/2532 นั้น พนักงานอัยการฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุนธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7222/2532 เป็นข้อหายักยอก คดีอาญาหมายเลขแดงที่7009/2533 เป็นข้อหายักยอก และข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัดบริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. 2499 ซึ่งความผิดตามที่ฟ้องและพยานหลักฐานที่จะต้องนำสืบในคดีต่าง ๆ ดังกล่าวแตกต่างกับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7008/2533 จึงเป็นคดีที่ไม่เกี่ยวพันกันไม่อาจจะฟ้องเป็นคดีเดียวกันหรือรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้ส่วนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7024/2533 นั้น พนักงานอัยการฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 เกี่ยวกับความผิดที่จำเลยได้กระทำขึ้นในบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เฉลิมโลก จำกัด ซึ่งเป็นคนละบริษัทกับที่จำเลยได้กระทำความผิดขึ้นในคดีอื่น ๆ จึงเป็นคดีที่ไม่เกี่ยวพันกัน ไม่อาจฟ้องจำเลยเป็นคดีเดียวกันหรือรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้เช่นกัน ข้อเท็จจริงในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7008/2533, 7024/2533 และคดีทั้งสี่ดังกล่าว จึงแตกต่างกับข้อเท็จจริงในคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4527/2530ที่จำเลยกล่าวอ้างจึงนับโทษจำคุกจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่7008/2533, 7024/2533 และคดีทั้งสี่ดังกล่าว ติดต่อกันเกินกว่า20 ปีได้ คดีไม่อยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2)คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสามสำนวนฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.