คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ไม่ได้นำอุทธรณ์มายื่นด้วยตนเองและมิได้มอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายื่นแทนนั้น ศาลสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้ไม่ได้.

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลอาญาสั่งรวมพิจารณาพิพากษากับสำนวนคดีหมายเลขดำที่ ๒๐/๒๕๐๑ ของศาลอาญา โดยหลวงประกอบธนกิจโจทก์ฟ้องนายแสวง เสนาขันธ์ จำเลย ซึ่งศาลอาญาพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวน อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๐๗ วันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๐๘ ได้มีผู้นำอุทธรณ์ยื่นต่อศาลอาญา อ้างว่าเป็นอุทธรณ์ของนายแสวง เสนาขันธ์ โจทก์ ศาลอาญาตรวจอุทธรณ์แล้วมีคำสั่งว่าอุทธรณ์ฉบับนี้ตัวความไม่ได้มายื่นโดยตนเอง ผู้นำมายื่นไม่ปรากฏว่าได้รับมอบอำนาจจากตัวความ จึงไม่รับอุทธรณ์
วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๐๘ โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาว่าป่วย และไม่ทราบว่าต้องมีใบมอบอำนาจให้ผู้อื่นมายื่นแทน ขอให้ศาลอาญาสั่งรับอุทธรณ์ ศาลอาญาสั่งยกคำร้อง.
นายแสวง เสนาขันธ์ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง
นายแสวง เสนาขันธ์ โจทก์ฎีกา
โจทก์ฎีกาว่า การที่เจ้าหน้าที่ศาลชั้นต้นไม่คืนผู้นำยื่นเสียในทันที ทำให้ความเข้าใจผิดว่าศาลรับแล้ว ศาลฎีกาว่า ปรากฏข้อเท็จจริงว่าอุทธรณ์ดังกล่าวได้ถูกนำมายื่นในวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๐๘ อันเป็นวันใกล้จะสิ้นกำหนดระยะเวลายื่นอุทธรณ์ตามมาตรา ๑๙๘ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่แก้ไขใหม่ และศาลอาญาได้มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ในวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๐๘ นั้นเอง ข้ออ้างของโจทก์จึงฟังไม่ขึ้น
โจทก์ฎีกาว่า ควรกรุณาให้โจทก์แก้ความบกพร่องนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การที่โจทก์ไม่นำอุทธรณ์มายื่นด้วยตนเอง และมิได้มอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายื่นแทนนั้น เป็นเหตุให้ศาลสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้ไม่ได้ เพราะการที่ยื่นอุทธรณ์นั้นมิได้เป็นไปตามเงื่อนไขแห่งประมวลกฎหมายที่บังคับไว้อันเป็นความผิดของโจทก์
พิพากษายืน.

Share