แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โอนทะเบียนซื้อขายที่ดินโดยรู้อยู่ว่าเป็นที่ของคนอื่นปกครองปรปักษ์มาช้านาน เจ้าของที่ดินฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินเป็นของตนได้รับมรดกที่ทั้งโฉนด ซึ่งรวมเอาที่ที่โจทก์มีกรรมสิทธิ์เข้าไปด้วยแล้วไปโอนขาย โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนการรับมรดกและการซื้อขาย และแสดงว่าที่ที่โจทก์ปกครองเป็นของโจทก์ดังนี้ศาลพิพากษาให้แสดงว่าที่ที่โจทก์ปกครองเป็นของโจทก์โดยไม่พิพากษาเพิกถอนการรับมรดกและการซื้อขาย
ย่อยาว
ได้ความว่าที่ดินโฉนดที่ 3106 เป็นของโจทก์ปกครองมา 7 ไร่ เป็นเวลากว่า 10 ปี จำเลยที่ 1 ไปประกาศรับมรดกทั้งโฉนดแล้วโอนขายให้แก่จำเลยที่ 2 โดยรู้กันอยู่ว่าโจทก์ปกครองมา โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า ส่วนที่โจทก์ปกครองมาเป็นของโจทก์และให้พิพากษาเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายระหว่างจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการรับมรดกกับนิติกรรมซื้อขายและพิพากษาแสดงว่าที่ของโจทก์ 7 ไร่ ตามแผนที่เป็นของโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยไม่เชื่อว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นแล้วพิพากษาว่าจำเลยจะเอาที่เป็นของจำเลยไม่ได้ จำเลยย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 จึงพิพากษาให้โจทก์ได้ที่ 7 ไร่ตามแผนที่