คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 837/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานไปค้นและได้ของกลางจากบ้านจำเลยโดยมิได้ทำบันทึกรายละเอียดแห่งการค้นและส่งของที่ค้นได้นั้นถ้าพะยานบุคคลของโจทก์ฟังได้ว่าค้นของกลางได้จากบ้านจำเลยแล้วศาลก็พิพากษาลงโทษจำเลยได้

ย่อยาว

คดีนี้ได้ความว่านายคนร้ายลักรถจักรยาน ๓ ล้อพร้อมทั้งเครือ่งอุปกรณ์ของนายชุ่มไปต่อมาเจ้าพนักงานไปค้นที่บ้านจำเลยได้รถจักรยาน ๓ ล้อและเครื่องอุปกรณ์บางอย่างโจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรตามกฎหมายอาญามาตรา ๓๒๑
ศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ขณะที่เจ้าพนักงานได้ของกลางที่เรือนจำเลย เจ้าพนักงานมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๐๒ – ๑๐๓ คือไม่ได้บันทึกรายละเอียดแห่งการค้นและสิ่งของที่ค้นได้ จึงต้องถือว่าโจทก์ไม่มีหลักฐานพอฟังว่าเจ้าพนักงานจับของกลางได้ที่บ้านจำเลยจริงดั่งข้อกล่าวหา จึงพิพากษากลับศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่ามาตรา ๑๐๒ – ๑๐๓ แห่ง ประมวลวิธีพิจารณาความอาญาเป็นแต่กำหนดวิธีการอันหนึ่งที่เจ้าพนักงานจะต้องกระทำไม่ได้บังคับว่าถ้าไม่ปฏิบัติตามนั้น แล้วจะไม่ให้ฟังเสียเลยว่าได้ค้นของกลางได้ที่บ้านจำเลยจริงอยู่การไม่มีบันทึกให้จำเลยรับรู้ไว้ศาลจำต้องระมัดระวังพะยานบุคคลที่โจทก์นำสืบเรื่องได้ของกลางจากบ้านจำเลยแต่คดีนี้พะยานบุคคลของโจทก์ฟังได้ว่าจับของกลางจากบ้านจำเลย แต่คดีนี้พะยานบุคคลของโจทก์ฟังได้ว่าจับของกลางได้จากบ้านจำเลยจึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น

Share