แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องติดตามเอาทรัพย์สินที่ดินพิพาทของตนคืนจากจำเลยผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน ย่อมไม่อยู่ในบังคับความ 10 ปี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินให้แก่โจทก์มิฉะนั้นให้ถือเอาคำตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย หากกรณีเป็นการพ้นวิสัยไม่อาจโอนกรรมสิทธิ์ได้ ให้จำเลยชดใช้ราคาทรัพย์สินเป็นเงิน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้จำเลยปลดภาระจำนองหรือหนี้สินให้หลุดพ้นจากที่ดินพิพาท หากไม่ปฏิบัติให้จำเลยชดใช้เงินจำนวน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าเสียหาย ตามที่ธนาคารผู้รับจำนองบังคับจำนอง จนกว่าจะมีการปลดจำนอง กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี ของทรัพย์สินอันมีมูลค่าราคาเป็นเงิน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะได้ปฏิบัติส่งคืนทรัพย์สินหรือ ชดใช้ราคาแก่โจทก์จนครบ
จำเลยให้การว่า จำเลยซื้อที่ดินพิพาทโดยสุจริตเสียค่าตอบแทน จำเลยไม่ได้ถือกรรมสิทธิ์แทนโจทก์ จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทเป็นของตนเอง เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๒๖ แต่โจทก์มาฟ้องคดีเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๓๗ เกินกว่า ๑๐ ปี ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยส่งมอบทรัพย์สินโอนกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินโฉนดเลขที่ ๖๘๕ เลขที่ดิน ๓ ตำบลสำโรงใต้ (สำโรง) อำเภอพระประแดง (พระโขนง) จังหวัด สมุทรปราการ เนื้อที่ดิน ๗๖๙.๒๘ ตารางวา ให้แก่โจทก์โดยปลอดภาระจำนอง หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย หากกรณีเป็นอันพ้นวิสัยให้จำเลยใช้ราคาแทน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งหมดในการไถ่ถอนจำนอง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้ตามทุนทรัพย์ ที่โจทก์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความ ๑๐๐,๐๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ ๗๕,๐๐๐ บาท แทนโจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
โจทก์ฟ้องติดตามเอาทรัพย์สินที่ดินพิพาทของตนคืนจากจำเลยผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน ย่อมไม่อยู่ในบังคับอายุความ ๑๐ ปี ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษาแก้เป็นว่า หากกรณีเป็นอันพ้นวิสัยให้จำเลยใช้ราคาแทน ๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท แก่โจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา ๕,๐๐๐ บาท แทนโจทก์