แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความสมบูรณ์ของพินัยกรรม์ที่ทำขึ้นก่อนวันประกาศใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำพินัยกรรม์ พ.ศ.2475 แต่เป็นเวลาภายหลังที่ใช้ประมวลแพ่งฯ บรรพ 1 แล้ว แบบแพ่งพินัยกรรม์ต้องเป็นไปตามกฎหมายเก่า แต่ลายมือชื่อของผู้ทำพินัยกรรม์ต้องตกอยู่ในบังคับแห่งมาตรา 9 มิเช่นนั้นพินัยกรรม์นั้นไม่สมบูรณ์
เมื่อพะยานผู้ลุกนั่งในพินัยกรรม์ไม่ได้เบิกความรับรองว่าลายพิมพ์นิ้วมือว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ทำพินัยกรรม์แล้ว ก็ถือว่าไม่มีพะยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องคดีโดยอ้างพินัยกรรม์ที่ทำขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕ แต่ก่อนวันประกาศใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำพินัยกรรม์ พ.ศ.๒๔๗๕ ผู้ทำพินัยกรรม์ได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือพินัยกรรม์นั้นโดยไม่มีผู้รับรองลายพิมพ์นิ้วมือ มีแต่ผู้ลงนามในฐานะเป็นพะยานลุกนั่ง ๕ คน พะยานตายเสีย ๒ คน ที่เหลืออีก ๓ คนก็ไม่เบิกความรับรองว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมืออันแท้จริงของผู้ทำพินัยกรรม์ บางคนว่าไม่เห็นเวลาพิมพ์นิ้วมือ บางคนว่าพะยานลงชื่อในขณะทำพินัยกรรม์หรือไม่จำไม่ได้ บางคนว่าตนจะเห็นเวลาพิมพ์นิ้วมือ+ไม่ลืมเสียแล้ว
ศาลจังหวัดตรังเห็นว่าต้องเอาลักษณมฤดกกฎหมายเก่ามาบังคับซึ่งไม่มีบัญญัติไว้ถึงการรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ทำพินายกรรม์พินัยกรรม์จึงใช้ได้ตามกฎหมาย จึงพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
ศาลฎีกาเห็นว่าการทำพินัยกรรม์นี้อยู่ในบังคับแห่งมาตรา ๙ ประมวลแพ่งฯ เพราะขณะที่ทำได้ใช้ประมวลแพ่ง ฯ บรรพ ๑ แล้ว พะยานผู้ลุกนั่งมาเบิกความมิได้รับรองลายพิมพ์นิ้วมือ เมื่อไม่มีพะยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือพินัยกรรม์จึงไม่สมบูรณ์ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์