คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยเพิ่งจะยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัย
จำเลยเป็นพนักงานของการสื่อสารแห่งประเทศไทยทำหน้าที่หัวหน้าที่ทำการไปรษณีย์สาขา ได้รับฝากจดหมายและรับเงินค่าตราไปรษณียากรจากผู้ฝากหลายราย แล้วไม่จัดการผนึกตราไปรษณียากรบนจดหมายและจัดส่งไปตามหน้าที่.กลับยักยอกเอาเงินค่าตราไปรษณียากรซึ่งตกเป็นของการสื่อสารแห่งประเทศไทยแล้วเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียย่อมเกิดความเสียหายแก่การสื่อสารแห่งประเทศไทย การสื่อสารแห่งประเทศไทยจึงเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับนายบุญเพิ่มพวกของจำเลยเป็นพนักงานของการสื่อสารแห่งประเทศไทยและเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามีหน้าที่ในการไปรษณีย์โทรเลขและอื่น ๆ รวมตลอดถึงการผนึกตราไปรษณียากรลงในไปรษณีย์ภัณฑ์แทนผู้ฝาก และรักษาเงินค่าธรรมเนียมการฝากไปรษณีย์ภัณฑ์พัศดุไปรษณีย์และโทรเลข จำเลยกับพวกดังกล่าวได้สมคบกันเบียดบังเงินค่าธรรมเนียมรับฝากจดหมายไปรษณีย์ภัณฑ์ส่งต่างประเทศ 131 ฉบับ รวมเป็นเงิน 1,384 บาท 65 สตางค์ ของการสือสารแห่งประเทศไทยผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยกับพวกโดยทุจริต และได้กระทำละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตโดยกักจดหมายไปรษณีย์ภัณฑ์ซึ่งส่งทางไปรษณีย์ไปต่างประเทศ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 163, 83 พระราชบัญญัติไปรษณีย์พุทธศักราช 2477 มาตรา 48 และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหาย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147, 157, 163(3), 83 พระราชบัญญัติไปรษณีย์ พุทธศักราช 2477 มาตรา 58 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดและให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่การสื่อสารแห่งประเทศไทยผู้เสียหาย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ในข้อที่จำเลยฎีกาว่าการสื่อสารแห่งประเทศไทยมิใช่ผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายที่แท้จริงคือผู้ฝากส่งจดหมายเมื่อผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนการสอบสวนไม่ชอบ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น แม้ว่าจำเลยเพิ่งจะยกปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวในชั้นฎีกาก็ตาม แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้อง จึงสมควรรับวินิจฉัยให้เห็นว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยรับฝากจดหมายและได้รับเงินค่าตราไปรษณียากรจากผู้ฝากหลายรายแล้วไม่จัดการผนึกตราไปรษณียากรลงบนจดหมายและจัดส่งไปตามหน้าที่ กลับยักยอกเอาเงินค่าตราไปรษณียากรซึ่งตกเป็นของการสื่อสารแห่งประเทศไทยแล้วเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียเช่นนี้ย่อมเกิดความเสียหายแก่การสื่อสารแห่งประเทศไทยอย่างมิพักต้องสงสัย การสื่อสารแห่งประเทศไทยจึงเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย

พิพากษายืน

Share